สถาบันบริหารธุรกิจเอ็มไอที สโลน (MIT Sloan School of Management) ได้ตกผลึก 5 สาเหตุหลักของการพ่นพิษกันในองค์กร
.
ปัจจัย 5 อย่างนี้ก่อให้เกิด Toxic Culture (วัฒนธรรมเป็นพิษ) แทรกซึมทีละเล็ก ทีละน้อย เกิดขึ้นทั้งแบบที่พนักงานรู้ตัวและไม่รู้ตัว ปัจจัยเหล่านั้นได้เแก่
.
1. การไม่ให้เกียรติกันในที่ทำงาน
.
การดูถูกเหยียดหยามกันเองในที่ทำงาน โดยเฉพาะการต่อว่ากันต่อหน้าธารกำนัล การที่พนักงานต้องถูกลดคุณค่าต่อหน้าผู้อื่น ผู้ที่ทำคงต้องหมั่นทบทวนวุฒิภาวะทางอารมณ์ให้มาก ควรท่องจำคำว่า “จงติในที่ลับ จงชมในที่แจ้ง”
การไม่ให้เกียรติกันจะบ่มเพาะความเกลียดชัง ก่อให้เกิดการแบ่งกลุ่ม การปิดบัง นำมาซึ่งการแบ่งแยกและการหลีกเลี่ยงที่จะทำงานร่วมกัน .. เมื่อไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันแล้ว ทีมไม่เกิด งานเละแน่นอน
.
2. การไม่เป็นส่วนหนึ่ง
.
เมื่อไรพนักงานมององค์กรว่าต้องมีกลุ่มมีก๊วน แบ่งเป็นก๊กเป็นเหล่า มีเส้นสายสัมพันธ์ส่วนตัว เมื่อนั้นจะเกิดสภาะวะที่ผู้มีอำนาจรับฟังเฉพาะเสียงของคนที่พูดเยอะ ละเลยความคิดเห็นของคนที่ก้มหน้าก้มตาทำงานเงียบๆแต่ไม่พูดอะไร
เมื่อไรพนักงานรู้สึกว่าไม่เป็นส่วนหนึ่งของทีม ไร้พื้นที่ยืนในองค์กร มันจะนำไปสู่ประสิทธิภาพของงานที่ลดลง
.
3. การชิงดีชิงเด่น
.
วัฒนธรรมที่เน้นผลงาน กระทั่งละเลยงานส่วนรวม เตะตัดขา ขโมยเครดิต ใส่ร้ายป้ายสี บรรยากาศเช่นนี้ยิ่งทำให้พนักงานผู้ตกเป็น ‘เหยื่อ’ ถูกพิษแทรกซึมเข้าช้าๆแบบไม่รู้ตัว
.
4. การดุด่า
.
คุกคาม กราดเกรี้ยว ใช้วาจาเฉือดเฉือน หักหาญน้ำใจกัน ใช้อำนาจในการหา ‘เหยื่อ’ ในองค์กร ข้อนี้พึงระวัง หากว่า ‘เหยื่อ’ ผู้นั้นคือคนที่คอยขับเคลื่อนงานหลักหลายอย่างมาเนิ่นนาน เมื่อไฟเริ่มฝ่อ พนักงานจะซึมเศร้า แล้วองค์กรจะสูญเสียม้าใช้ที่เคยภักดีมาโดยตลอด
.
5. พฤติกรรมที่ผิดจริยธรรม
ไม่ซื่อสัตย์ ไร้คุณธรรม ข้อนี้บ่งชี้สาเหตุอย่างตรงไปตรงมามากที่สุด หากในองค์กรมีระบบที่เอื้อให้เกิดพฤติกรรมนี้ ต้องเร่งสะสาง และหากมีพนักงานคนไหนที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ ต้องรีบเด็ดหัวให้ไว เพราะเรื่องผิดคุณธรรมก็ดี เรื่องคอรัปชั่นก็ดี มันลามไปสู่ Norms ขององค์กรได้ .. เรื่องนี้อันตรายอย่างยิ่ง
….
สังเกตได้ไงว่าพิษเริ่มแผ่ซ่านเข้าบรรยากาศขององค์กรแล้ว ให้ดูได้จากอาการดังต่อไปนี้
.
1. พนักงานไม่พูดคุย ไม่พูดเล่น ไม่เปิดใจซึ่งกันและกัน เพราะหวาดระแวงกัน มีความกลัวติดอยู่ในใจ
2. ทีมไม่ยิ้มให้กัน หรือยิ้มแบบปลอมๆ ไม่อยากสื่อสารกันแล้ว
3. ไม่มีใครกล้าพูดเรื่องบรรยากาศเชิงลบในที่ทำงาน เพราะกลัวข้อหาแบ่งแยก
4. พูดถึงแต่การฝ่าฝืนและการลงโทษ
5. กลุ่มหัวหน้าและลูกน้องไม่มีปฏิสัมพันธ์กัน
6. มุ่งเน้นแต่เรื่องของข้อกำหนดและนโยบายมากไป
7. พนักงานไม่กล้าออกความคิดเห็น
8. ความกลัวปกคลุมบรรยากาศการทำงาน
….
จะเห็นได้ว่า 5 ปัจจัยหลักส่งผลให้เกิด 8 อาการที่เริ่มโดนพิษ .. เมื่อพิษแผ่ซ่าน ครอบคลุมองค์กร เมื่อนั้นบรรยากาศคงไม่น่าอยู่ ผลิตผลและประสิทธิภาพคงลดลงฮวบ
.
ทางแก้ก็ให้แก้ที่ต้นเหตุ คือดับปัจจัยทั้ง 5 ข้างต้นให้หมดไป
.
ส่วนจะใช้กลยุทธ์อะไรบ้าง ก็ต้องมาดูในรายละเอียดเชิงลึกกันอีกที มีหลายศาสตร์ที่ควรส่งเสริมให้คนในองค์กรได้เรียนรู้ เช่น ศาสตร์การโค้ช ศาสตร์ Facilitator จิตวิทยาเชิงบวก และ เรื่องของ Growth Mindset เป็นต้น
.
หากเปรียบพรมเป็นระบบ บางครั้ง ดีที่สุดก็คือรื้อพรมใหม่ เอาไปซักให้สะอาด กวาดขยะใต้พรมทิ้ง หรือไม่ก็เปลี่ยนพรมใหม่ แต่หากพิษเยอะเกิน คงต้องเปลี่ยนไปอยู่บ้านหลังใหม่ มันอาจจะง่ายกว่าเยอะเลย
.
เสียดายก็แต่ พนักงาน ‘ม้าใช้’ บางคนที่โดนพิษสะสมมานานแล้วตัดสินใจย้ายไปอยู่บ้านหลังอื่น ยิ่งหากเป็นบ้านใหม่และเป็นคู่แข่งกับบ้านเดิม แบบนี้เจ้าของบ้านเดิมคงเสียดายแย่
.
ที่สำคัญผู้บริหารระดับหัวๆ ต้องเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรเชิงบวกไว้ให้มาก และต้องตระหนักให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างเข้มข้นจริงจัง
.
คอยดักจับพนักงานที่ชอบพ่นพิษและอาการของคนถูกพิษบางคนให้ดีๆ
.
ก่อนที่จะเสีย ‘ม้าใช้’ ชั้นดีไปแบบไม่รู้ตัว
.

.
อ่านบทความอื่นๆได้ใน Facebook Page : Hovering Inspirations 👇
https://www.facebook.com/profile.php?id=61558412223812&mibextid=ZbWKwL