หลายคนมักชอบบอก “จงเป็นตัวของตัวเอง” แต่บางครั้ง บางบทบาท เราจำเป็นต้องสลัดความเป็นตัวของตัวเองออกไป
.
“Just don’t be yourself.”
.
ประโยคนี้คือคำแนะนำที่ดีที่สุดสำหรับคนที่ต้องรับบทบาทหน้าที่ในการเป็น ‘นักบิน’
.
ในโลกของหน้างานจริง เราคัดคนสารพัดแบบ ร้อยพ่อพันธุ์แม่มาเป็นนักบิน จริงอยู่ ข้อสอบกระดาษกับการสอบสัมภาษณ์อาจคัดคนที่เหมาะมาได้ในระดับหนึ่ง
.
แต่เนื้อแท้แล้ว ทุกคนล้วนมีตัวตนที่ซุกซ่อนอยู่ ตัวตนจริงๆ ที่บางครั้งช่างต่างกันสิ้นเชิงกับบทบาทที่เราต้องไปเผชิญในโลกของการทำงาน
.
ลองจินตนาการ
.
เราเป็นคนเงียบขรึม เก็บตัว ไม่ชอบคุยกับใคร และชอบอยู่กับตัวเองได้ทั้งวันโดยไม่รู้สึกอึดอัด
.
แต่พอเราต้องไปสวมยูนิฟอร์ม เดินเข้าสนามบิน รับหน้าที่เป็น ‘นักบินพาณิชย์’
.
เรากลับต้อง
.
– สื่อสารกับลูกเรืออย่างมั่นใจ
– ทำให้ผู้โดยสารรู้สึกปลอดภัย
– ตอบคำถามจากเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดิน
– สื่อสารวิทยุกับ ATC อย่างชัดเจน
– ร่วมตัดสินใจกับ Co-pilot ภายใต้ความกดดัน
– เป็น ‘ตัวอย่าง’ ให้ลูกเรือ แม้ในวันที่คุณรู้สึกเหนื่อยล้าแบบสุดๆ
.
นี่แหละวิชาชีพที่ต้องใช้ EQ มากพอๆ กับทักษะของการบิน
.
ไม่ว่าเราจะเป็นคนแบบไหน เมื่อเราต้องรับผิดชอบในบทบาทนี้ เราไม่มีสิทธิ์เก็บตัวในห้องนักบินเด็ดขาด
.
ความฉลาดทางอารมณ์คืออะไร ?
.
จะบอกว่ามันคือทักษะที่จำเป็นมากๆสำหรับนักบินทุกคน จะว่าไปแล้ว ทุกอาชีพเลยด้วยซ้ำ
.
ในโลกการบินที่เต็มไปด้วยความกดดันและการตัดสินใจที่รวดเร็ว ความฉลาดทางอารมณ์หรือ Emotional Intelligence – EQ เป็นทักษะที่สำคัญไม่แพ้ความสามารถทางเทคนิค
.
แดเนียล โกลแมน (Daniel Goleman) นักจิตวิทยาชาวอเมริกันชื่อดังอธิบายว่า EQ ประกอบไปด้วย
.
– การตระหนักรู้ในตนเอง คือเข้าใจอารมณ์และผลกระทบของตนเอง
– การควบคุมตนเอง คือการจัดการอารมณ์ในสถานการณ์กดดัน
– แรงจูงใจ มีแรงผลักดันภายในในการบรรลุเป้าหมาย
– ความเห็นอกเห็นใจ เข้าใจและรับรู้ความรู้สึกของผู้อื่น
– ทักษะทางสังคม มีทักษะในการสร้างและรักษาความสัมพันธ์ที่ดี
.
นักบินที่มี EQ สูงสามารถรับมือกับสถานการณ์วิกฤตได้ดี สื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับทีมงาน
.
ทำไม EQ ถึงสำคัญในอาชีพนักบิน ?
.
1. การตัดสินใจในยามวิกฤต – นักบินที่มี EQ สูง จะไม่ตื่นตระหนก และประเมินสถานการณ์ได้แม้อยู่ในสถานการณ์เสี่ยง
2. ความสัมพันธ์ในห้องนักบิน – Co-pilot ไม่ใช่แค่คนที่นั่งข้างๆ แต่คือ ‘ทีม’ ที่ต้องทำงานร่วมกันโดยไม่ปิดบัง ไม่แข่งขัน ไม่อีโก้
3. การสื่อสารกับลูกเรือและผู้โดยสาร – อารมณ์ของนักบินมีผลกับอารมณ์ของทุกคนบนเครื่อง
4. ภาวะผู้นำเงียบ – นักบินที่มี EQ จะ ‘นำ’ โดยไม่ต้องตะโกน แต่สร้างความมั่นใจได้ด้วยท่าที สายตา และน้ำเสียงที่สงบนิ่ง
.
สายตาที่มั่นคง และคำพูดที่เรียบง่ายของกัปตันในยามวิกฤต อาจเปลี่ยน ‘ความกลัว’ให้กลายเป็น ‘ความไว้วางใจ’
.
ในชีวิตประจำวันก็เช่นกัน
.
EQ ช่วยให้เรา ‘รอด’ มากกว่าแค่ทำให้เรา ‘ผ่าน’
.
EQ ไม่ได้ทำให้เราสอบผ่าน แต่ทำให้เรา
.
– รอดจากความขัดแย้งในองค์กร
– รอดจากภาวะหมดไฟ
– รอดจากปัญหาความสัมพันธ์ที่บ้าน
– รอดจากการเป็น “นักบินที่ไม่มีใครอยากบินด้วย”
.
….
.
10 วิธีฝึก EQ ให้สูงขึ้น (เครดิตจากเว็บไซต์ AirlinePrep)
.
ถ้าเราอยากเป็นนักบินที่ใครๆ ก็วางใจอยากบินด้วย ไม่ใช่เป็นเพียงแค่คนที่ ‘บินเก่ง’ ลองเริ่มจากสิ่งเล็กๆ ที่อาจส่งผลมหาศาล หากได้ลองทำตามดังต่อไปนี้
.
1. ทักคนก่อน แล้ว ‘จำชื่อ’ เขาให้ได้
2. เรียกชื่อเขา เวลาคุย เพราะมันสร้างความรู้สึกว่าเขาสำคัญ
3. ฟังให้มาก พูดให้น้อย
4. ชื่นชมคนอื่น แม้เป็นเรื่องเล็ก
5. ถามไถ่ แล้วฟังคำตอบด้วยใจ ไม่ใช่เพื่อมารยาท
6. หยุดคิดว่าต้อง ‘เป๊ะ’ ในทุกเรื่อง (อย่าสับสนระหว่าง ‘แม่นยำ’ กับ ‘สมบูรณ์แบบ’)
7. ยิ้มให้บ่อยขึ้น แม้ไม่มีเหตุผล
8. อย่ารีบตัดสินไอเดียของคนอื่น
9. ช่วยเหลือโดยไม่หวังผล ฝึกเป็นผู้ให้ มากกว่าผู้รับ เพราะนั่นคือ ‘วัฒนธรรมแห่งมืออาชีพ’
10. ถามตัวเองเสมอว่า “วันนี้เราทำให้คนรอบตัวรู้สึกดีขึ้นหรือแย่ลง ?”
.
สุดท้าย
.
“IQ อาจทำให้เราสอบผ่าน ได้คะแนนเช็กภาคอากาศอย่างเทพ สอบได้ใบอนุญาตนักบิน แต่ EQ จะทำให้เราได้เพื่อนร่วมทาง”
.
ในโลกแห่งการบิน
.
ที่ทุกวินาทีหมายถึงความปลอดภัย
.
และทุกความสัมพันธ์คือความเชื่อมั่น
.
อย่าถามว่า “เราเป็นตัวของตัวเองได้ไหม”
.
แต่ให้หมั่นถามว่า
.
“เราสามารถเป็นมืออาชีพ แม้ในวันที่เราไม่ได้เป็นตัวของตัวเองได้หรือไม่ ?”
.
เพราะนั่นแหละ คือมืออาชีพที่แท้จริง
.

.
อ่านบทความอื่นๆได้ใน Facebook Page : Hovering Inspirations 👇
https://www.facebook.com/profile.php?id=61558412223812&mibextid=ZbWKwL