Skip to content

Flight Dispatcher

คู่หูเงียบของนักบิน ผู้บินอยู่ข้างหลังโดยไม่มีใครเห็น
.
“พวกเขาไม่ได้นั่งใน Cockpit แต่ช่วยให้เครื่องนั้นบินได้ พวกเขาบินอยู่บนโต๊ะ”
.
บนฟ้า ทุกสายตามักจับจ้องไปที่นักบิน ห้องนักบิน เสียงใบพัด และเสียงเครื่องยนต์ ในขณะที่ยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่ง นั่งอยู่บนโต๊ะเงียบๆ เฝ้ามองหน้าจอมอนิเตอร์
.
ผู้โดยสารไม่เคยเห็นพวกเขา แต่เป็นคนที่นักบินต้องได้พูดคุยด้วยเสมอก่อนขึ้นบิน
.
ที่สำคัญทุกๆเที่ยวบิน .. ล้วนผ่านสายตา และการตัดสินใจของพวกเขา
.
พวกเขาคือ Flight Dispatchers คู่คิด คู่วางแผน และคู่หูที่ช่วยในการตัดสินใจของนักบิน
.
คนที่ทำงานอยู่หลังฉากแต่รับผิดชอบร่วมกับนักบินแทบทุกเรื่อง โดยเฉพาะ “ชีวิตของทุกคนบนเครื่อง”
.
วันนี้จะมาพูดถึงตำแหน่งงานที่เราเรียกพวกเขาว่า Flight Dispatchers เปรียบได้กับ The Ground Co-Pilots บางทีเราก็เรียกพวกเขาว่า ‘นักบินโต๊ะ’ หรือถ้าจะใช้คำทางการหน่อยก็เรียกว่า ‘พนักงานอำนวยการบิน’
.
ตามกฎหมายของ FAA (สหรัฐอเมริกา) และอีกหลายประเทศ Flight Dispatcher ไม่ใช่แค่เจ้าหน้าที่สนับสนุน แต่เป็น “ผู้ร่วมรับผิดชอบ” โดยตรงในเที่ยวบินที่กำลังจะเกิดขึ้น
.
ทุกเที่ยวบินต้องได้รับ “การปล่อย” (Dispatch Release) จากทั้งกัปตันและ Dispatcher
.
ก่อนที่ล้อเครื่องบินจะเริ่มหมุนเคลื่อนเพียงแค่นิ้วเดียว
.
“ถ้านักบินคือดวงตาบนท้องฟ้า
.
Flight Dispatcher ก็คือมันสมองบนพื้นดินที่ไม่เคยหลับ”
.
พวกเขาทำอะไรบ้าง บอกเลยว่าจิปาถะ
.
1. Flight Planning
.
วางแผนเส้นทางการบินอย่างละเอียด
คำนวณน้ำมันที่เหมาะสมสำหรับระยะทาง น้ำหนักเครื่อง และการบินผ่านอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อย
พิจารณาความสูงที่เหมาะสมที่สุด สนามบินสำรอง และข้อจำกัดในเส้นทาง เรียกได้ว่าเตรียมแทบทุกอย่างให้นักบิน
.
2. Regulatory Compliance
.
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเที่ยวบินเป็นไปตามข้อกำหนดของหน่วยงานกำกับดูแลหรือไม่
ตรวจสอบสถานะอากาศยานให้พร้อมบิน (airworthy)
รวบรวมเอกสารการบินที่ถูกต้องและครบถ้วนก่อนการปล่อยเที่ยวบิน
.
3. Weather Monitoring
.
วิเคราะห์รายงานอากาศ METAR/TAF
คาดการณ์เส้นทางพายุ การเกิด turbulence, icing และ visibility
หากอากาศเปลี่ยน จะแจ้งนักบินพร้อมคำแนะนำสำรอง
.
4. Crisis Management
.
เมื่อมีเหตุฉุกเฉิน เช่น เครื่องขัดข้อง ผู้โดยสารป่วย พายุพัดเข้า
Dispatcher จะติดต่อสนามบินฉุกเฉิน คำนวณน้ำมันที่เหลือ ประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานภาคพื้น
หนึ่งการตัดสินใจที่ต้องใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาที .. แต่ส่งผลต่อชีวิตคน
.
5. Communication
.
เป็นศูนย์กลางการติดต่อระหว่างนักบิน, ATC, ทีมซ่อมบำรุง และผู้ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการบิน
สื่อสารชัดเจน กระชับ และไม่ทำให้เกิด panic
เปรียบเสมือน “ศูนย์บัญชาการกลาง” ที่ไม่เคยหลับ
.
6. Record Keeping and Documentation
.
เก็บบันทึก flight plans, pilot briefings, เส้นทางที่ใช้จริง, เหตุการณ์ระหว่างบิน
เอกสารเหล่านี้สำคัญมากต่อการวิเคราะห์ความผิดพลาดย้อนหลัง และใช้สำหรับการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
.
7. Decision Support
.
ให้คำแนะนำกับนักบินเมื่อต้องเลื่อนเที่ยวบิน เปลี่ยนเส้นทาง หรือยกเลิก
วิเคราะห์ภาพรวม เช่น ปริมาณการจราจรทางอากาศ ความพร้อมของสนามบิน หรือข้อจำกัดในแต่ละวัน
“ในวันที่ท้องฟ้าไม่แน่นอน .. Flight Dispatcher คือผู้ที่สร้างความแน่นอนให้เกิดขึ้นก่อนล้อจะลอยพื้นพื้น”
….
ถามว่าพวกเขาต้องมีทักษะอะไรบ้าง ?
.
ข้อมูลจาก AeroGuard และ Sheffield Aviation School ระบุว่า Flight Dispatcher ต้องมีทักษะดังต่อไปนี้
.
– Multitasking & Prioritization – ดูแลเที่ยวบินหลายลำในเวลาเดียวกัน จัดลำดับความสำคัญได้ดี (Multitasking ในที่นี้คือความสามารถในการสลับทำทีละอย่างได้อย่างรวดเร็ว)
– Quick & Accurate Decision Making – โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด
– Weather Literacy – วิเคราะห์อากาศได้ลึกระดับนักอุตุนิยมวิทยา
– Calmness Under Pressure – รับมือกับความกดดันได้ดี เพราะความนิ่งคือหัวใจที่จะพยุงสติให้ก้าวผ่านในแต่ละช่วงเวลา
– Software Fluency – ใช้ซอฟต์แวร์และระบบต่างๆที่มีความซับซ้อนสูงได้อย่างคล่องแคล่ว เพื่อติดตาม วางแผน ประสานงานเที่ยวบินได้อย่างแม่นยำและทันเวลา เช่น ระบบ Jeppesen, ARINC , EFB และ ADS-B
– Communication Finesse สื่อสารทุกฝ่ายด้วยความมั่นใจ แม้ในเวลาที่เร่งด่วนสุดๆ
….
ฟังดูเหมือนต้องทำอะไรได้หลายอย่าง อีกนิดเดียวก็ไปบินกับนักบินด้วยกันแล้ว ถามว่าภาระงานขนาดนี้ เครียดระดับไหน
.
บอกได้เลยว่า แม้พวกเขาไม่ได้บิน .. แต่ทุกความเคลื่อนไหวของเครื่องที่ขึ้นบินคือภาระที่แบกอยู่ในหัวใจของพวกเขา
.
Flight Dispatcher ไม่เพียงทำงานกับข้อมูลที่เยอะ แต่ต้องทำงานกับความไม่แน่นอน
.
ในแต่ละวัน พวกเขาต้องติดตามเที่ยวบินหลายลำพร้อมกัน
.
ประมวลผลข้อมูลสด อากาศที่เปลี่ยนแปลงเร็วกว่าอารมณ์มนุษย์
.
ดีเลย์จากสนามบินที่ไม่มีใครควบคุมได้
.
และปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกนาที
.
งานวิจัยจาก University of Waterloo ชี้ว่า
.
เมื่อ Dispatcher ดูแลเที่ยวบินเกินขีดจำกัดที่สมองจะรับไหว .. ความปลอดภัยของระบบทั้งหมดจะถูกลดทอนลง
.
และเมื่อความเครียด .. อาจกลายเป็นภัยเงียบที่ไร้เสียงสัญญาณเตือน
.
ความปลอดภัยคือคำเดียวที่ไม่ควรมีอะไรมาต่อรองได้ ฉะนั้นบทบาทนี้จึงสำคัญไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่านักบินเลย .. ระบบดีจะไม่ทำให้พวกเขาต้องพังไว และที่สำคัญ หากเตรียมแผนบินดีตั้งแต่อยู่บนโต๊ะ ก็เหมือนมีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว
.
โรงเรียนสอนการบินชั้นนำอย่าง Sheffield แนะนำให้ฝึก “สมาธิท่ามกลางการตัดสินใจ”
.
องค์กรสนับสนุนเช่น ONeCALL เปิดสายด่วนให้ dispatcher ติดต่อได้ตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อเกิดเหตุไม่ปกติ
.
บริษัทใหญ่เริ่มใช้ระบบ Workload Visualization Tools เพื่อลดโอกาสการรับผิดชอบเกินพิกัด
.
ให้ทุกคนเห็นภาพรวมแบบเรียลไทม์ ไม่ใช่แค่ตนเอง แต่ทีมทั้งหมด
….
หนึ่งวันของ Dispatcher จะวุ่นวายขนาดไหน
.
– เริ่มกะเช้าด้วย briefing กับทีม
– ตรวจสอบ NOTAMs, สภาพอากาศ, ความพร้อมของเครื่อง
– ประสานกับกัปตันในทุกเที่ยวบินที่ต้องปล่อย
– ติดตามเที่ยวบินผ่านระบบติดตามแบบ real-time
– รายงานและบันทึกข้อมูลเที่ยวบิน
– ส่งมอบงานให้ทีมกะถัดไปด้วยรายงานละเอียด
.
ทั้งหมดนี้ .. ในขณะที่เที่ยวบินอีก 20 ลำยังคงบินว่อนอยู่บนฟ้า
.
“ทุกเที่ยวบินที่ขึ้นบิน มีสายตาของ Dispatcher จับจ้องอยู่ตลอดเวลา แม้ผู้โดยสารจะไม่รู้”
….
Flight Dispatcher คือกลไกที่ทำให้การบินราบรื่น
.
พวกเขาไม่มีห้องนักบิน แต่ถือได้ว่าเป็นหัวใจของห้องศูนย์ปฏิบัติการในภาพรวม
.
ไม่มีรันเวย์ให้เห็น แต่คือคนที่เปิดทางให้รันเวย์ปลอดภัย
.
Flight Dispatcher อาจไม่ได้นำเราไปถึงจุดหมาย แต่เขาคือหนึ่งในจิ๊กซอว์ที่นำเราไปถึงที่หมายนั้นได้โดยปลอดภัย .. แม้จะไม่มีใครเห็นเลยสักคน
.
สาระเพิ่มเติม
.
✅ AeroGuard Flight Training Center
.
เป็นสถาบันฝึกอบรมนักบินและเจ้าหน้าที่ด้านการบินจากสหรัฐอเมริกา มีศูนย์การเรียนการสอนหลายแห่งในรัฐแอริโซนา แคลิฟอร์เนีย และเท็กซัส โดยเน้นการฝึกอบรมทั้งนักบินพาณิชย์และเจ้าหน้าที่ควบคุมการบิน รวมถึง Flight Dispatcher ด้วยหลักสูตรที่ทันสมัยและได้มาตรฐาน FAA
.
✅ Sheffield School of Aeronautics
.
เป็นหนึ่งในโรงเรียนสอนการบินที่มีชื่อเสียงระดับโลก ตั้งอยู่ที่รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา เชี่ยวชาญด้านการฝึกอบรม Aircraft Dispatchers มาตั้งแต่ปี 1948 และได้รับการรับรองจาก FAA โดยเฉพาะ ให้ความรู้เชิงลึกด้านการวางแผนการบิน และการบริหารเที่ยวบินในเชิงปฏิบัติ
.
✅ Jeppesen
.
เป็นระบบซอฟต์แวร์และฐานข้อมูลด้านการบินที่ให้ข้อมูลแผนที่เส้นทาง (Aeronautical Charts), ข้อมูลสนามบิน, น่านฟ้า, รวมถึงระบบช่วยวางแผนการบิน (Flight Planning System)
เป็นเครื่องมือหลักของทั้งนักบินและ dispatcher ทั่วโลก
.
✅ ARINC
.
ย่อมาจาก Aeronautical Radio, Inc.
คือระบบสื่อสารข้อมูลในอุตสาหกรรมการบิน โดยเฉพาะการรับส่งข้อความระหว่างศูนย์ควบคุมการบิน, นักบิน และระบบภาคพื้น เช่น Flight Planning Messaging, Slot Requests, Weather Updates
ช่วยให้ dispatcher สามารถสื่อสารกับหน่วยงานต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
.
✅ EFB (Electronic Flight Bag)
.
คืออุปกรณ์หรือแอปพลิเคชันบนแท็บเล็ตที่ใช้แทนกระเป๋าเอกสารนักบินแบบเดิม เช่น Flight Plans, Weather Briefings, Checklists, Manuals
<Dispatcher ต้องสามารถจัดส่ง briefing package ผ่าน EFB ได้ทันทีเมื่อต้องเปลี่ยนแปลงข้อมูลก่อนการบิน>
.
✅ ADS-B (Automatic Dependent Surveillance–Broadcast)
.
คือเทคโนโลยีติดตามเครื่องบินแบบ real-time ที่ใช้สัญญาณจาก GPS
เครื่องบินจะ “broadcast” ตำแหน่ง ความเร็ว และความสูงไปยังผู้ควบคุม และระบบติดตาม
Dispatcher ใช้ข้อมูลนี้เพื่อ “Flight Watch” หรือดูว่าเที่ยวบินกำลังบินตามแผนหรือไม่
.
🔍 สรุป
.
การทำงานของ Flight Dispatcher ในยุคปัจจุบันต้องอาศัยทักษะด้านไอทีและซอฟต์แวร์ในระดับสูง โดยเฉพาะการใช้งาน ระบบวางแผน ระบบสื่อสาร และ ระบบติดตามเที่ยวบิน เพื่อให้มั่นใจว่าเที่ยวบินทุกลำจะปลอดภัยและเป็นไปตามแผนที่วางไว้
.
✅ ONeCALL Flight Dispatch เป็นองค์กรที่ตั้งอยู่ในประเทศ สหรัฐอเมริกา
.
โดยเป็นหน่วยงานที่ให้บริการ “Flight Dispatch Support Services” สำหรับสายการบินและ Flight Dispatchers ทั่วโลก โดยเฉพาะสายการบินขนาดเล็ก หรือหน่วยงานที่ไม่มีฝ่าย Dispatch สนับสนุนตลอด 24 ชั่วโมงภายในองค์กรเอง
.
บริการหลักของ ONeCALL ได้แก่
.
สายด่วน 24/7 สำหรับให้คำปรึกษาเรื่องการวางแผนการบิน (flight planning)
ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสภาพอากาศ, NOTAMs, routing, และ fuel planning
ให้คำแนะนำกรณีฉุกเฉิน เช่น การเบี่ยงเส้นทางหรือ landing ทางเลือก
สนับสนุนทั้ง dispatchers มือใหม่และผู้มีประสบการณ์ในสถานการณ์ซับซ้อน
จุดแข็งของ ONeCALL คือการเป็น “ทีม Dispatch เสริม” ที่สายการบินสามารถเข้าถึงได้ทุกเวลา โดยเฉพาะเมื่อ dispatcher หลักของบริษัทไม่พร้อม หรือจำเป็นต้องตัดสินใจในสถานการณ์ที่ไม่เคยเจอมาก่อน
.

.

อ่านบทความอื่นๆได้ใน Facebook Page : Hovering Inspirations 👇

https://www.facebook.com/profile.php?id=61558412223812&mibextid=ZbWKwL

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *