<The Invisible Systems That Keep Pilots Safe – Lessons from the Human Body>
.
เรื่องนี้เขียนยาก อ่านยาก และกว่าจะแกะออกมาเรียงร้อยเป็นคำพูดให้อ่านง่าย ค่อนข้างหินพอควร แต่ถ้าใครชอบเรียนรู้เรื่องเกี่ยวกับระบบต่างๆในร่างกายคนเรา ก็อาจจะชอบทานอาหารจานด่วนที่กลืนยากจานนี้ก็เป็นได้
.
เรื่องนี้เกี่ยวกับกลไกบางอย่างที่นักบินต้องเรียนรู้ อยู่ในวิชาปัจจัยมนุษย์ เป็นระบบหนึ่งในร่างกายเรา ระบบนี้ทำงานตลอดเวลา อย่างเงียบเชียบ .. ภายในตัวเรา
เรากำลังพูดถึง Nervous System (ระบบประสาท), Endocrine System (ระบบฮอร์โมน), และ Body Temperature Control (การควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย) ทั้งหมดนี้เปรียบได้กับระบบไร้เสียงที่เป็นเสมือน ‘ผู้คุ้มกัน’ ตัวจริงในทุกเที่ยวบิน
.
ในโลกที่เต็มไปด้วยแสง เสียง ความร้อน และแรงสั่นสะเทือน ร่างกายเรามีกลไกที่เรียกว่า Sensory Threshold (เซนเซอรี ธริชโฮลด์) —มันคือระดับการรับรู้สิ่งเร้า เป็นด่านแรกของการรับรู้ ที่ระบบประสาทจะเริ่ม ‘ตอบสนอง’ ต่อสิ่งกระตุ้น หมายความว่า หากสิ่งที่มากระตุ้นเบากว่าระดับนี้ ระบบประสาทจะไม่รู้สึกหรือไม่ตอบสนอง
.

.
นี่คือเหตุผลว่าทำไมนักบินต้องฝึกการรับรู้เล็กๆน้อยๆ และไม่ประมาทกับสิ่งที่มองไม่เห็น
.
มีกระบวนการหนึ่งของระบบประสาทชื่อว่า Habituation (ฮาบิชูเอชัน) เป็นอีกหนึ่งกับดักที่ทำให้ร่างกายและสมองตอบสนองช้าลง เช่นกรณีคนเราพบเห็นสิ่งเดิมซ้ำ ๆ (เช่น เส้นขอบฟ้าที่ไม่เปลี่ยน) สมองจะ ‘ลดความสนใจ’ โดยอัตโนมัติ เป็นการประหยัดพลังงานในการประมวลผล
.
และถ้านักบินไม่ตื่นตัวเพียงพอ อาจพลาดสัญญาณเล็กๆ ที่กำลังนำไปสู่หายนะ
.
ต่อไปนี้คือ 3 ระบบสำคัญที่ทำงานเงียบๆในร่างกาย ผู้คุ้มกันไร้เสียงที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังการทำงานของนักบินทุกคน
.

แบ่งเป็น 2 ส่วนใหญ่ได้แก่
.
1) Central Nervous System (CNS) (ระบบประสาทส่วนกลาง) คือ สมองและไขสันหลัง
2) Peripheral Nervous System (PNS) (ระบบประสาทส่วนปลาย) คือ เครือข่ายเส้นประสาทที่กระจายทั่วร่างกาย
.
สังเกตอาการในชีวิตประจำวันได้ง่ายๆเช่น
.


.
ทั้งหมดเริ่มต้นจากระบบประสาทที่สั่งการในเสี้ยววินาที ก่อนที่เราจะรู้ตัวซะอีก
.
ส่วนย่อยของระบบประสาทที่น่าสนใจที่ตำราการบินเขียนไว้ได้
.


.
ทุกครั้งที่นักบิน ‘ควบคุม’ อากาศยานอย่างราบรื่นภายใต้สถานการณ์ที่กดดันสุดๆนั้น มันคือการทำงานร่วมกันระหว่างระบบที่ฝึกฝนได้ (cortex) และระบบที่ฝึกไม่ได้ (reflex)
.

.
ถ้าเปรียบ Nervous System เป็นระบบสายฟ้า
Endocrine System ก็เปรียบได้กับสายน้ำลับ ที่คอยส่งข้อความผ่านกระแสเลือด
.
มันทำงานผ่านฮอร์โมนจากต่อมต่าง ๆ เช่น
.




.

.

.
นี่คือการเตรียมร่างกายให้รอด…ก่อนที่สมองจะสั่งให้ทำอะไรต่อจากนั้น
.

.
นักบินบางกลุ่มต้องทำงานในสภาพอากาศสุดขั้ว หนาวยะเยือกเหนือมหาสมุทร ในขณะที่บางกลุ่มต้องทำงานภายใต้อากาศร้อนระอุเหนือน่านฟ้าเขตร้อน
ร่างกายเรามีกลไกควบคุมอุณหภูมิที่ทรงพลังมาก
.


.
หากอุณหภูมิร่างกายต่ำเกินไป → สมองเริ่มทำงานผิดปกติ → สูญเสียเหตุผล → หมดสติ
หากสูงเกินไป→ ประสิทธิภาพร่างกายและสมองทรุดลงอย่างรุนแรง → เสี่ยงหมดสติจากภาวะขาดน้ำ-เกลือแร่
.
บ้านเราอากาศร้อน ถ้ารู้ว่าต้องไปบินเที่ยวบินนานๆ อย่าลืมเตรียมน้ำดื่มติดไปด้วย น้ำสำคัญกับร่างกายมาก
.
ในห้องนักบิน การควบคุมสภาพแวดล้อมจึงสำคัญ มันคืองานที่ต้องทำภายใต้สภาพแวดล้อมที่ไม่น่าอภิรมย์
.
โลกการบินสอนเราเสมอว่า
.
“สิ่งที่มองไม่เห็น…มักสำคัญและอย่ามองข้าม”
.
เช่นเดียวกับร่างกายเรา
.
ระบบที่เราไม่รู้สึกว่ามันทำงาน คือระบบที่ช่วยให้เรายืนหยัด ทนทาน และรอดพ้นทุกแรงสั่นสะเทือน
.



.
สุดท้าย
.

เตรียมเครื่องให้พร้อมบินยังไม่พอ
.
หากแต่การเตรียมร่างกาย สมอง และจิตใจให้พร้อม สำหรับการโบยบินไปบนสภาพแวดล้อมที่ที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงทุกวินาทีก็สำคัญไม่แพ้กัน
….
อธิบายเสริมเกี่ยวกับ Cortex และ Reflex
.

.
คือ ส่วนของสมองที่เกี่ยวกับการคิด การวางแผน และการตัดสินใจ เช่น Cerebral Cortex
สามารถพัฒนาได้ผ่านการฝึกฝน เช่น การฝึกจำวิธีตอบสนองเมื่อเกิดเหตุขัดข้องในห้องนักบิน
ตัวอย่าง – การฝึกจำเช็คลิสต์ฉุกเฉิน หรือการวางแผนบินที่ซับซ้อน
.

.
คือ การตอบสนองอัตโนมัติของร่างกายโดยไม่ผ่านการคิด เช่น ชักมือกลับเมื่อเจอของร้อน
เกิดจากการทำงานของ เส้นประสาทและก้านสมอง ไม่ต้องฝึกก็มีอยู่แล้ว แต่เร็วและจำเป็นต่อการเอาตัวรอด
ตัวอย่าง – การกระพริบตาเมื่อมีวัตถุพุ่งเข้าใกล้
.

.
Cortex = ฝึกได้, ใช้ในสถานการณ์ที่ต้องคิด
Reflex = ฝึกไม่ได้, ใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉินที่ต้องการความรวดเร็ว
.

.
อ่านบทความอื่นๆได้ใน Facebook Page : Hovering Inspirations 👇
https://www.facebook.com/profile.php?id=61558412223812&mibextid=ZbWKwL