ในยุคบุกเบิกท้องฟ้าของมนุษย์เรา ช่วงต้นนั้นหลายคนมองว่าเป็นเรื่องของผู้ชาย คำว่านักบินในยุคนั้น เชื่อว่าเป็นอาชีพที่ต้องใช้ความกล้าหาญ สมาธิที่แน่วแน่ ร่างกายที่แข็งแกร่ง ซึ่งหลายคนมองว่ามันไม่เหมาะกับเพศหญิง
.
ทว่า มีผู้หญิงกลุ่มเล็กๆบางกลุ่ม ฉีกความเชื่อเหล่านั้นจนหมดสิ้น เรื่องนี้เกิดขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20
.
Bessie Coleman (เบสซี่ โคลแมน) และ Harriet Quimby (แฮเรียต ควิมบี้) คือตัวอย่างของนักบินหญิงในยุคบุกเบิก หนทางนี้สำหรับผู้หญิงนั้นไม่ง่าย ไม่มีกุหลาบโรย อย่างเช่น Bessie นักบินหญิงผู้มีฐานะยากจน ต้องเดินไปกลับสนามบินวันละ 15 กม. เพื่อฝึกบิน
.
หรือบางคนเช่น Raymonde de Laroche (เรย์มอนด์ เดอ ลาโรช) อยากเรียนบิน แต่ไม่มีโรงเรียนไหนรับสอน ด้วยเพราะเป็นผู้หญิง หรือไม่มีโรงเรียนไหนยอมออกเล่มใบอนุญาตให้ผู้หญิง เรียกได้ว่าถูกสังคมต่อต้าน ถูกความเชื่อบูลลี่อย่างหนัก
.
ยุคนั้นยังไม่เกิดอุตสาหกรรมการบินเชิงพาณิชย์ที่หลากหลาย การบินส่วนใหญ่เน้นไปที่การบินโชว์ (Exhibition Flying) การบินแข่งขันกันเพื่อทำลายสถิติต่างๆ การแข่งขันบินตามเส้นทางที่ไกลๆหรือที่เรียกกันว่า Air Races เป็นที่นิยมมาก ในบางอีเวนต์มีผู้ชมมากถึง 150,000 คน
.
แม้จะมีผู้หญิงที่ฉีกกฎเกณฑ์การเรียนบินที่เคยสงวนไว้สำหรับผู้ชาย จนกระทั่งสามารถฝึกบินจนจบและได้รับใบอนุญาตนักบินแล้ว พวกเธอก็ยังคงถูกคัดค้านอย่างหนักสำหรับการเข้าร่วมแข่งขันการบิน สังคมเชื่อว่ามันอันตรายเกินไปสำหรับพวกเธอ
.
นักบินสตรีจำเป็นต้องหาเวทีเพื่อพิสูจน์ หนึ่งในบุคคลที่เป็นแกนนำสำคัญคือ Amelia Earhart (อมีเลีย เอียร์ฮาร์ต)
….
Amelia Earhart (อมีเลีย เอียร์ฮาร์ต),
Louise Thaden (หลุยส์ เทเดน) และนักบินหญิงอีกหลายคนตัดสินใจจัดการแข่งขันการบินขึ้นมาเอง มันคือจุดเริ่มต้นของ National Women’s Air Derby หรือ “Powder Puff Derby” ในปี ค.ศ.1929
.
<Powder Puff คือ พัฟแป้งที่ใช้แต่งหน้าของผู้หญิง>
.
<Derby คือ การแข่งขัน>
.
Powder Puff Derby จึงเป็นชื่อเรียกเล่นๆของการแข่งขันทางการบินของเหล่านักบินหญิง เป็นคำประชดประชันที่แปลว่า “นี่คือการแข่งขันที่อ่อนโยนดั่งการแต่งหน้า”
.
คนคิดชื่อเรียกการแข่งขันนี้คือ Will Rogers (วิลล์ โรเจอร์ส) นักแสดงตลกและนักเขียนชื่อดังในยุคนั้น
.
กว่าการแข่งขันจะเกิดขึ้นได้ มีอุปสรรคสารพัดอย่าง คณะกรรมการจัดการแข่งขันด้านการบินแห่งชาติบอกว่าเส้นทางบิน 2,300 ไมล์ทะเลที่ถูกออกแบบไว้สำหรับการแข่งนั้น ไกลเกินไป อาจเป็นอันตรายต่อผู้หญิง
.
สื่อมวลชนบางแห่งโจมตี บางกลุ่มดูถูก เรื่องลามถึงขั้นมีการปล่อยข่าวว่าจะก่อวินาศกรรมเครื่องบินของผู้เข้าแข่งขัน .. ไม่อยากจะเชื่อว่า การจะเกิดอะไรใหม่ๆขึ้นมาบนโลกนี้ มันมักจะมีอุปสรรค ราวกับว่าบางกิจกรรมนั้นไปขัดแข้งขัดขา ขัดผลประโยชน์ของใครบางคนหรือไม่ หลายอย่างที่มันเกิดยาก มักเป็นเรื่องของการเมือง
.
แม้ในช่วงสุดท้ายของการเตรียมตัว คณะกรรมการพยายามออกกฎว่าผู้เข้าแข่งขันทุกคน ต้องมีนักบินผู้ชายหรือช่างเครื่องบินผู้ชายร่วมเดินทางไปด้วย แต่นักบินหญิงทั้งหมดยืนกรานอย่างเด็ดเดี่ยว ปฏิเสธเงื่อนไขนี้อย่างเด็ดขาด
.
Louise Thaden (หลุยส์ เทเดน) บอกว่า
.
“To us, the successful completion of the Derby was of more import than life or death.”
(“สำหรับพวกเรา ความสำเร็จของการแข่งขัน Derby ในครั้งนี้ มีความสำคัญยิ่งกว่าความตาย”)
.
18 สิงหาคม ค.ศ.1929 นักบินหญิง 20 คน ยืนเรียงแถวพร้อมกันกับเครื่องบินของพวกเธอที่ Clover Field, Santa Monica (สนามบินเก่าในเมืองซานตาโมนิกา รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา)
.
นักบินหญิงเหล่านี้ ต้องยอมรับว่า ดื้อได้ใจจริงๆ
.
Will Rogers (วิลล์ โรเจอร์ส) ทำหน้าที่เป็นผู้ปล่อยตัวการแข่งขัน และพูดล้อเลียนนักบินหญิงเหล่านั้นว่า
.
“And they’re off—the petticoat pilots and flying flappers!”
(“และพวกเธอก็ออกตัว—นักบินกระโปรงบานและสาวแฟลปเปอร์ผู้ทะยานฟ้า !”)
.
การแข่งขันเริ่มขึ้น นักบินหญิงกลุ่มนี้ต้องบินด้วยระยะทางประมาณ 269 ไมล์ทะเล (500 กิโลเมตร) ต่อวัน โดยมีเพียงแผนที่กระดาษ เสบียงฉุกเฉินนิดหน่อย เช่น น้ำดื่ม นมอัดเม็ด และเนื้ออบแห้ง
.
แม้จะต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย ทั้งอุบัติเหตุ ปัญหาทางเทคนิค และข่าวลือเรื่องการก่อวินาศกรรม ท้ายที่สุดมีนักบินหญิงจำนวน 14 คนที่สามารถเข้าเส้นชัยได้สำเร็จ ขณะที่มีหนึ่งคนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุขณะบิน และอีกสี่คนต้องออกจากการแข่งขันระหว่างการแข่งด้วยเหตุผลหลายอย่างเช่น ปัญหาทางเทคนิคของเครื่องบิน อุบัติเหตุและเรื่องของสุขภาพ
.
ผลลัพธ์ของการแข่งขันในครั้งนั้น เป็นเวทีพิสูจน์ให้โลกได้เห็นว่าผู้หญิงก็สามารถบินได้ดีไม่แพ้ผู้ชาย
.
การแข่งขัน Powder Puff Derby นำไปสู่การก่อตั้ง The Ninety-Nines องค์กรที่เปลี่ยนแปลงวงการบินของผู้หญิงไปตลอดกาล
.
หลังจบการแข่งขันพัฟแป้งบนท้องฟ้า นักบินหญิงกลุ่มหนึ่งก็เริ่มเห็นความสำคัญของการมี เครือข่ายที่คอยสนับสนุนซึ่งกันและกัน นำไปสู่การก่อตั้ง The Ninety-Nines ในวันที่ 2 พฤศจิกายน ค.ศ.1929 ที่ Curtiss Field, New York (สนามบินเก่าในรัฐนิวยอร์ก) โดยมี Amelia Earhart (อมีเลีย เอียร์ฮาร์ต) เป็นประธานคนแรกขององค์กรนี้
.
ตอนนั้นหนังสือพิมพ์ The New York Times รายงานข่าวถึงการประชุมจัดตั้งองค์กร The Ninety-Nines ว่า “พวกผู้หญิงกำลังรวมตัวกันจัดตั้งองค์กร แต่เราไม่รู้ว่าพวกเธอต้องการอะไร”
.
ก่อนตั้งองค์กรสำเร็จ กลุ่มผู้ก่อตั้งส่งคำเชิญไปหานักบินหญิงที่มีใบอนุญาตทั้งหมดในสหรัฐ ตอนนั้นมีจำนวน 117 คน ซึ่งตอบรับและสมัครเป็นสมาชิกองค์กรจำนวน 99 คน นี่คือที่มาของคำว่า ‘The Ninety-Nines’
.
เป้าหมายขององค์กรนี้เพื่อสร้างเครือข่าย สร้างความสามัคคีของเหล่านักบินหญิง สนับสนุนโอกาสทางการบิน และช่วยสนับสนุนนักบินหญิงในกิจกรรมทางการบินต่างๆ
.
พวกเธอทำให้โลกได้ประจักษ์ว่า The Ninety-Nines คือองค์กรที่เปลี่ยนแปลงวงการการบินของผู้หญิงอย่างแท้จริง ปัจจุบัน The Ninety-Nines ยังคงดำเนินกิจกรรมอยู่ โดยมีสำนักงานใหญ่ที่ Oklahoma City (เมืองหลวงของรัฐโอคลาโฮมา) และพิพิธภัณฑ์ Ninety-Nines Museum of Women Pilots
ทุกวันนี้ ผู้หญิงสามารถเป็นนักบินพาณิชย์ นักบินรบ หรือแม้แต่นักบินอวกาศก็เห็นกันมาแล้ว แม้ว่ายังถือว่าเป็นกลุ่มน้อยในอุตสาหกรรมการบิน แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธว่า ผู้หญิงก็ทำได้ในทุกๆอย่างที่ผู้ชายทำ
.
Powder Puff Derby คือ มรดก
.
The Ninety-Nines คือแรงบันดาลใจให้นักบินหญิงทั่วโลก
.
ปัจจุบันมีการแข่งขันที่ขื่อว่า Air Race Classic (ARC) เป็นการแข่งขันบินทางไกลสำหรับนักบินหญิง เปรียบได้กับทายาทของ Powder Puff Derby ซึ่งจัดขึ้นทุกปีเพื่อสนับสนุนนักบินหญิงทั่วโลก
.
Amelia Earhart (อมีเลีย เอียร์ฮาร์ต) เคยบอกไว้ว่า
.
“The most difficult thing is the decision to act, the rest is merely tenacity.”
(“สิ่งที่ยากที่สุดคือการตัดสินใจลงมือทำ .. ต่อจากนั้นเป็นเรื่องของความดื้อรั้น”)
.
น่าจะเพราะ พวกเธอเป็นคนประเภทดื้อ คนรั้นๆนี่แหละที่เปลี่ยนโลกมาเยอะแล้ว จะทลายขีดจำกัดอะไรก็ตาม มันไม่ใช่แค่มีความกล้าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่มันต้องอาศัยความดื้อด้วย และดื้อจนได้ใจอย่างเช่นกลุ่มสาวแฟลปเปอร์ผู้ทะยานฟ้านั้น .. มันเป็นอย่างนี้นี่เอง
.
….
.
สาระเพิ่มเติม
.
– คำว่า Flappers (แฟลปเปอร์) เป็นคำที่ใช้เรียกผู้หญิงยุค 1920s ที่มีลักษณะบุคลิกรักอิสระ ท้าทายขนบธรรมเนียมดั้งเดิม ชอบแสดงออกถึงความมั่นใจ
– The petticoat pilots
.
(Petticoat หมายถึง กระโปรงชั้นในของผู้หญิง The petticoat pilots จึงเป็นคำเปรียบเปรยถึงนักบินหญิงที่เข้าสู่วงการซึ่งเคยถูกมองว่าการบินเป็นเรื่องของผู้ชายเท่านั้น)
.
.
อ่านบทความอื่นๆได้ใน Facebook Page : Hovering Inspirations 👇
https://www.facebook.com/profile.php?id=61558412223812&mibextid=ZbWKwL