“ผู้มีฤทธิ์ ย่อมไปได้ในอากาศ”
.
ครั้งแรกที่ผมได้ยินประโยคนี้คือเมื่อครั้งสมัยย่างเท้าเข้าสู่โรงเรียนการบินครั้งแรก
.
คำว่า ‘ฤทธิ์’ ความหมายคือ ‘แรงอำนาจ’ เป็นเครื่องมือที่ทำให้เกิดความสำเร็จตามต้องการ เครื่องมือนี้ทรงพลังมาก
.
สำหรับนักบินแล้ว ‘ฤทธิ์’ ในที่นี้จึงหมายถึง ‘ปีก’ เพราะมีปีกจึงบินได้ แต่ปีกนี้ไม่ธรรมดา เพราะไม่ใช่ปีกที่กำเนิดโดยธรรมชาติ แต่เป็นปีกที่ต้องสร้างขึ้นมาจากภายใน
.
‘ปีก’ หรือ W.I.N.G.S จึงเป็นส่วนผสมของสิ่งพิเศษที่นักบินทุกคนต้องมีดังต่อไปนี้
.
W (Willpower)
พลังแห่งการควบคุมตนเอง วินัย ความมุ่งมั่นและการโฟกัส
กว่าจะเป็นนักบินได้ เชื่อได้ว่าทุกคนต้องผ่านบททดสอบนานาที่หนักอึ้ง นักบินจะต้องอดทนฟันฝ่า ควบคุมอารมณ์ ต่อต้านสิ่งล่อใจที่บางครั้งอาจทำให้ไขว้เขวขณะเดินอยู่บนเส้นทาง ดังนั้นนักบินย่อมมี Willpower กันทุกคน สิ่งนี้ถูกสร้างขึ้นทีละนิดนับจากวันที่มีชั่วโมงบินเท่ากับศูนย์ กระทั่งพวกเขาสามารถทำการบินได้ด้วยตัวเองพร้อมพาอากาศยานลอยขึ้นไปได้ตามที่ใจต้องการ
.
I (Intuition)
ปัญญาญาณ – หากพูดถึงสิ่งนี้อาจจะฟังแล้วดูเว่อไปไหม จะบอกว่าไม่เลย จริงๆแล้วนักบินถูกหล่อหลอมให้มีญาณครบ 3 อย่างได้แก่ สัญชาตญาณ ปรีชาญาณ และปัญญาญาณ
สัญชาตญาณ – นักบินจะถูกฝึกให้ควบคุมเครื่องจนถึงอาการที่เรียกว่า ‘เข้าเส้น’ หรืออยู่ไม้อยู่มือ การโต้ตอบต่ออาการของเครื่องจะเป็นไปโดยอัตโนมัติ เป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะเวลาควบคุมเครื่องในท่าทางฉุกเฉิน สมองจะสั่งงานไวมาก ร่างกายจะโต้ตอบอย่างรวดเร็ว เป็นไปตามชั่วโมงบินที่ได้สั่งสมมา
ปรีชาญาณ – นักบินจะต้องรู้แจ้งถึงทุกองค์ความรู้ที่ประกอบร่างกลายเป็นอากาศยาน ครอบคลุมทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการบิน คือการรู้แจ้งเห็นจริงในทุกวิชาภาคทฤษฎีที่เรียนมา มีความฉลาดหลักแหลม พลิกแพลงทฤษฎีที่เรียนมาได้
ปัญญาญาณ – เมื่อองค์มีความรู้ครบครันบวกทักษะฝีมือที่ผ่านมาตรฐานการบินแล้ว การนำความรู้และทักษะการบินมาประยุกต์ใช้ ถึงขั้นที่เรียกว่ารู้แจ้งแทงตลอด ขั้นนี้คือขั้นของ ‘ปัญญา’ สิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้ สัญชาติญาณและปรีชาญาณจะต้องแน่นเต็มเปี่ยมก่อน
.
N (Nurturing Attitude)
เจตคติที่ดีจะหล่อเลี้ยงไหลวนอยู่ในตัวตนตลอดมิเคยขาด นักบินที่ดีย่อมมีทัศนคติ เจคติ และชุดความคิดเชิงบวก เพราะสิ่งเหล่านี้คือหัวใจของคนที่คิดอยากจะมีปีก
Attitude ของนักบินจะเชื่อมโยงไปสู่สมรรถนะทั้ง 9 อย่างของนักบินด้วย เช่น การตัดสินใจ การเป็นผู้นำ หรือเรื่องของการทำงานเป็นทีม นักบินจะต้องนำพาทีมบนฟ้าให้บรรลุภารกิจได้ด้วยความปลอดภัย
.
Grit (Grit) & (Growth)
นักบินทุกคนย่อมมีวิริยะ มีอิทธิบาท 4 ที่ครบวงรอบ
Grit ในที่นี้จึงหมายถึงความเพียรอันมีส่วนผสมของความรัก ความคลั่งไคล้ในการบิน มีความบากบั่นเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายระยะยาว
สำหรับ Growth นั้นคือการเติบโต ทุกคนย่อมมีการเติบโตจากข้างใน ทุกครั้งที่ปีกถูกสะสมชั่วโมงบินเพิ่มขึ้นมา ในทุกๆนาทีที่ผ่าน ปีกนั้นก็ค่อยๆเติบโตขึ้นไปด้วย หลายครั้งที่ปีกต้องสะบักสะบอม ล้มลุกคลุกคลาน เพราะทางเดินมีหนามโรยมาก พวกเขาต้องฝ่ามันไปด้วยความเพียรพร้อมการเติบโต วิชาชีพนี้ ไม่มีทางที่จะหยุดการเรียนรู้ เพราะงานนี้ต้องหมั่นฝึกฝน ทบทวน ทั้งความรู้และทักษะอยู่ตลอดเวลา
.
S (Situational Awareness)
ความตระหนักรู้ในสถานการณ์ คำนี้ในวงการบินเรามักเรียกสั้นๆว่า ‘SA’
สำหรับผมอยากให้คำนิยามของคำนี้ว่าคือ ‘สติ’ ความหมายสำหรับการบินคือการรู้เท่าทันปัจจุบันขณะบิน รู้ถึงสิ่งที่ผ่านมา และประเมินสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไปได้ วงรอบการดักจับสถานการณ์รอบตัวนั้นจะเร็วมาก เพราะทุกครั้งที่เครื่องแหวกอากาศไป 1 วินาที ระยะทางข้างหน้าถูกกวาดไปแล้วไม่น้อยกว่า 50 เมตรแน่นอน
….
เมื่อนำส่วนผสมทั้ง 5 มาประกอบร่าง กลายเป็นคำว่า W.I.N.G.S หมายถึงปีกที่นักบินใช้ทำมาหากินบนฟ้า คือ ‘ฤทธิ์’ ที่พวกเขาใช้เหาะเหินเดินอากาศ
.
และคำว่า ‘ฤทธิ์’ ที่หมายถึง WINGS นี้ จะต้องเป็นปีกที่ถูกบ่มเพาะมาจากภายในด้วย
.
ครั้นได้ครอบครองปีกแล้ว ทุกคนจะมี ‘ปีก’ ประดับบนหน้าอก บนเครื่องแบบอันศักดิ์สิทธิ์ บนยูนิฟอร์มของนักบิน พร้อมขีดบนบ่าที่ต้องค่อยๆสั่งสม ‘ฤทธิ์’ ให้เพิ่มพูนยิ่งๆขึ้นไประหว่างทางข้างหน้าที่ต้องเผชิญ
.
กระทั่งขีดบนบ่าเต็ม และแม้ว่าขีดเต็มแล้ว มีปีกแล้ว ‘ฤทธิ์’ ย่อมเสื่อมได้หากไม่รักษา ไม่หล่อเลี้ยงมันไว้ให้ดี
.
หากได้ครอบครองปีกแล้ว ก็ต้องคอยหมั่นดูแลมันจากข้างในอยู่เสมอ หมั่นสำรวจตัวตนอย่างเนืองนิจ
.
ปีกจะเติบโตขึ้นเรื่อยๆจากข้างในอย่างสง่างาม .. ให้สมกับประโยคที่ว่า
.
“ผู้มีฤทธิ์ ย่อมไปได้ในอากาศ”
<อากาเส ยันติ อิทธิยา>
.
รักษาปีกนี้ไว้อย่าให้เสื่อม ให้มันดังก้องเสมอจากข้างใน ให้สมกับที่คว้ามันมาไว้ครอบครอง
.

.
อ่านบทความอื่นๆได้ใน Facebook Page : Hovering Inspirations 👇
https://www.facebook.com/profile.php?id=61558412223812&mibextid=ZbWKwL