“Flying a helicopter isn’t just a job, it’s a way of life. For military pilots, it’s a duty and a mission”
.
สำหรับพวกเขา การบินไม่ใช่เพียงแค่งาน มันคือทางชีวิต มันเป็นหน้าที่ มันคือภารกิจ
.
โลกของการบินสำหรับเหล่าเฮลิคอปเตอร์นั้น ถือได้ว่ามีสีสันมาก ด้วยความคล่องตัวและเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ถูกออกแบบมาให้เข้าถึงในทุกพื้นที่อย่างง่ายดาย ทลายข้อจำกัดเรื่องความยาวของรันเวย์ พวกเขาจึงถูกหน่วยงานภาครัฐนำไปใช้งานกันอย่างหนักหน่วง .. ไม่มีเหล่าทัพใดที่ไม่มีเฮลิคอปเตอร์เป็นของตนเอง
.
ในฐานะที่ผมเคยเป็นนักบินเฮลิคอปเตอร์กองทัพเรือ เคยขับเหยี่ยวทะเลฉายา ‘ซีฮอว์ค’ หนึ่งในความภาคภูมิใจของชีวิตนักบิน การที่ได้เป็นผลผลิตของกองทัพกับทุกภารกิจที่เคยผ่าน เมื่อเปรียบเทียบกับงานนักบินพาณิชย์ที่อีกครึ่งหนึ่งของชีวิตได้เคยผาดโผนมามากพอสมควร ก็พอจะสรุปย่อได้พอสังเขปว่า งานของนักบินทหารนั้น แตกต่างกับนักบินพาณิชย์ราวกับคนละโลก
.
แต่ว่าเรายังคงใช้ท้องฟ้าร่วมกัน การเรียนรู้กันและกันจึงถือเป็นเรื่องที่ดี ต่อไปนี้จะแชร์ภารกิจการบินของนักบินทหาร เพื่อให้เห็นภาพรวมของบางทักษะ ที่ต้องถูกเติมเต็มให้เป็น ‘พิเศษ’ มากกว่าการบินขั้นพื้นฐานที่ได้เรียนรู้มาจากรั้วโรงเรียนการบิน
.
ตัวอย่างภารกิจฝึกบินที่นักบินเฮลิคอปเตอร์ (โดยเฉพาะทหารเรือ) ต้องพบเจอ
.
1.Deck Landing Qualifications (DLQs) – การบินลงเรือ
นักบิน ฮ.กองทัพเรือ จำเป็นต้องบินลงเรือรบให้ได้ เราต้องฝึก ‘DLQ’ กันอย่างสม่ำเสมอ ครั้งแรกที่บินลงเรือ บอกเลยว่ารู้สึกเหวอพอควร เพราะว่าเรือก็แล่นไปในทะเล เราก็ต้องนำ ฮ.ลงจอดขณะที่เรือเดินหน้าไปเรื่อยๆ การบินลงเรือนี้ต้องทำทั้งกลางวันและกลางคืน
.
2.Vertical Replenishment (VERTREP) – การบินลำเลียงขนส่งสิ่งของ
การขนส่งสิ่งของด้วย ฮ. เป็นหนึ่งในการบินแบบ Sling Load Operations กล่าวคือ เฮลิคอปเตอร์จะยกของด้วยสายที่ห้อยยาวๆซึ่งเกี่ยวกับอุปกรณ์ Cargo hook ใต้ท้อง ฮ. (Cargo hook – มีลักษณะคล้ายตะขอไว้เกี่ยวของ) โดยลำเลียงจากเรือหนึ่งไปยังอีกเรือหนึ่งกลางทะเล ภารกิจนี้ต้องอาศัยการทำงานเป็นทีม จะมีเจ้าหน้าที่นั่งอยู่ในห้องผู้โดยสาร คอยช่วยประสานงาน การเกี่ยวและปล่อยของ รวมถึงการสื่อสารกับนักบินขณะทำการบิน
.
3.Over-the-Horizon Targeting (OTHT) – บินชี้เป้าเรือรบข้าศึก
เป็นหนึ่งในภารกิจการต่อต้านภัยเรือผิวน้ำ เวลาฝึกเราจะแบ่งฝ่ายกัน สมมติสถานการณ์รบ นักบินมีหน้าที่บินไปพิสูจน์ทราบ ชี้เป้าเรือข้าศึก และส่งพิกัดเรือข้าศึกมาให้เรือที่ควบคุม ส่วนใหญ่ภารกิจนี้มักทำเวลากลางคืน เป็นอีกหนึ่งการบินทางยุทธวิธีที่น่าตื่นเต้นมาก
.
4.Anti-Submarine Warfare (การต่อต้านเรือดำน้ำ)
ในส่วนของการบิน นักบินที่มีหน้าที่โดยตรงก็คงหนีไม่พ้นนักบินเฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำ ฉายา ‘ซีฮอว์ค’ พวกเราต้องฝึก ‘Dipping Sonar Operations’ เป็นการบินลอยตัวนิ่งๆเหนือน้ำทะเล แล้วหย่อนอุปกรณ์ที่เรียกว่า ‘Dipping Sonar’ ลงไปใต้ทะเล อุปกรณ์นี้จะแพร่คลื่นเสียงใต้น้ำออกไปเพื่อตรวจจับวัตถุต่างๆที่อยู่ใต้ทะเล
บน ฮ. จะมีเจ้าหน้าที่นั่งอยู่ในที่นั่งผู้โดยสาร เป็นผู้เชี่ยวชาญการฟังเสียงใต้น้ำ และการใช้อุปกรณ์เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลบนหน้าจอแสดงผลค่าวัตถุใต้น้ำ เจ้าหน้าที่จะคอยประสานงาน สื่อสารกับนักบิน ขณะบิน นักบินต้องคอยมอนิเตอร์ค่าพารามิเตอร์หลายอย่างมาก ต้องบินลอยตัวนิ่งๆเพื่อคอนโทรลสายที่ห้อย Dipping Sonar ให้ไม่แกว่งมากเกินไป เพราะอาจไปชนรั้งกับช่องใต้ท้องเครื่อง ซึ่งจะอันตรายมาก ภารกิจนี้ถือว่าโหดพอควร
นอกจากการจุ่ม Dipping Sonar ลงในทะเล เฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำที่ติดตั้งตอร์ปิโด (Torpedo – อาวุธสำหรับยิงเรือดำน้ำ) ก็มีการฝึกยิงตอร์ปิโดด้วยเช่นกัน
.
5. Search and Rescue (SAR) Operations
Rescue Hoist Operations
การฝึกใช้รอกกู้ภัยเพื่อช่วยผู้รอดชีวิตขึ้นจากบนบกหรือในน้ำ นักบินต้องใช้ทักษะการบินลอยตัวและการประสานงานกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่หย่อนตัวลงไปพร้อมกับรอกกู้ภัยนั้น
นอกจากการใช้ Hoist แล้ว บางสถานการณ์ เช่น ไปช่วยเหลือคนจมน้ำกลางทะเล นักบิน ฮ.ก็ต้องฝึกบินด้วยความสูงต่ำ (10 ฟุต ความเร็ว 10 นอต) เพื่อปล่อยนักว่ายน้ำลงไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย แรกๆที่ฝึกบินท่านี้ บอกได้เลยว่า มันคือการสัมผัสรสชาติการบินกับเฮลิคอปเตอร์ของแท้ ท่าทางนี้ต้องใช้สมาธิสูงมาก ทั้งการควบคุมความสูงและความเร็ว ทุกอย่างต้องเป๊ะ
.
6. External Load Handling
การฝึกใช้ระบบ Cargo hook (ลักษณะเป็นตะขอเกี่ยวของ เป็นอุปกรณ์เสริมที่ติดตั้งไว้ใต้ท้องของ ฮ.เพื่อเกี่ยวเชือกสำหรับห้อยสิ่งของที่ต้องการบรรทุกเพื่อขนย้าย) การฝึกบินนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อบินเกี่ยวห้อยสิ่งของ ขนย้ายไปยังที่ต่างๆที่ได้รับมอบหมาย ยกตัวอย่างเช่น การขนย้ายปืนใหญ่ การบินภารกิจนี้ต้องละเอียด ตั้งแต่ก่อนบิน ต้องคำนวณน้ำหนักของสิ่งของที่จะหิ้ว น้ำหนักรวม น้ำมัน ความยาวของสายที่ใช้ การบินต้องเสถียร ความเร็วไม่เกินค่าที่กำหนด และต้องประสานงานกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
.
7.Night Vision Goggles (NVG) Training
การฝึกบินโดยใช้ NVG นี้ นักบินจะสวมใส่กล้อง NVG ไว้ที่ตา เพื่อใช้มองในเวลากลางคืน กล้อง NVG จะช่วยสำหรับการมองเห็นในเวลากลางคืนได้ดีมาก
.
8. Firefighting Operations / Bambi Bucket Operations
การฝึกบินโดยหิ้วถังแบมบี้เพื่อบินไปตักน้ำและนำไปดับไฟในพื้นที่ที่ประสบเหตุเพลิงไหม้ เป็นภารกิจบินที่เสี่ยงภัย และต้องใช้การประสานงานที่แม่นยำกับทีมดับเพลิงภาคพื้นดิน รวมถึงอีกหลายหน่วยงานด้วย
.
9. Amphibious Assault Mission
บินสนับสนุนการยกพลขึ้นบก ภารกิจนี้นักบินจะบินพาเหล่านาวิกโยธินไปยกพลขึ้นบกที่จุดลงจอดที่วางแผนไว้ (Landing Zone) การบินภารกิจนี้ต้องทำงานกันเป็นทีม วางแผนร่วมกัน สิ่งสำคัญที่สุดคือเรื่องของเวลา การนัดหมาย เวลาลงจอด จะต้องแม่นยำมาก
.
10. Fast Rope Insertion
เฮลิคอปเตอร์จะโรยเชือกลงมา แล้วทหารจะโรยตัวผ่านเชือกนั้นลงไปบนพื้นที่ที่วางแผนเอาไว้ เทคนิคนี้มักใช้สำหรับการแทรกตัวอย่างรวดเร็วเข้าไปในพื้นที่จำกัด ซึ่งเฮลิคอปเตอร์อาจไม่สามารถลงจอดได้
.
11. Medical Evacuation (MEDEVAC)
การบินเพื่อเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บส่งสถานพยาบาลเพื่อส่งผู้ป่วยเข้ารับการรักษา
.
12. Nap-of-the-Earth (NOE Flight)
การฝึกบินด้วยความสูงต่ำ เป็นการบินทางยุทธวิธี ฝึกบินลัดเลาะตามภูมิประเทศ บินเพื่อหลบหลีกไม่ให้ถูกตรวจจับได้จากเรดาร์ของข้าศึก การฝึกบิน NOE ต้องอาศัยทักษะเฉพาะ ต้องศึกษาภูมิประเทศให้ชำนาญ สมัยฝึกบินบทเรียนนี้รู้สึกว่า เป็นการบินที่สนุกมากๆ แต่พอได้ทำงานเข้าสู่โลกแห่งการบินมากขึ้นถึงได้รู้ว่า NOE เป็นท่าทางการบินหนึ่งที่มีความเสี่ยงมากๆ นักบินต้องละเอียดและเชี่ยวชาญพื้นที่ สำหรับเฮลิคอปเตอร์ที่ติดอาวุธด้วยนั้น นักบินก็ต้องเรียนรู้ระบบอาวุธ เรียนรู้วิธีการใช้งานให้ชำนาญและแม่นยำ
.
13. Helicopter Parachute Insertion Operations
บินสนับสนุนนักโดดร่ม (บินทิ้งร่ม) – นักบินจะบินไปยังพิกัดที่วางแผนร่วมกันไว้กับนักโดด ที่ความสูงระดับหนึ่ง แล้วปล่อยนักโดดให้กระโดดลงมา เป็นการสนับสนุนภารกิจการแทรกซึมสำหรับหน่วยเฉพาะกิจต่างๆ ที่ต้องการเข้าไปยังพื้นที่ที่วางแผนไว้
.
ทั้งหมดทั้งมวลนี้คือภารกิจบินที่นักบินเฮลิคอปเตอร์ทหารจะต้องได้รับการฝึกฝน เคี่ยวเข็ญเป็น ‘พิเศษ’ แน่นอนว่าสมรรถนะนักบินที่ต้องการย่อมต้องมีมากกว่านักบินโดยทั่วไป
.
มีหลายคนอาจตั้งคำถามว่า “ฝึกไปทำไม” คำตอบคือ ทุกการฝึก คือการเตรียมพร้อมไว้รับมือเมื่อเกิดสถานการณ์จริง ไม่มีใครรู้หรอกว่าในอนาคตอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง หากแต่การซักซ้อมที่มีมาตรฐานถือเป็นการลับคมความเป็นมืออาชีพที่ดีที่สุด
.
แม้ในห้วง 100 ปีที่ซักซ้อมจะไม่ได้ใช้งานในสถานการณ์จริงเลย แต่มันได้ถูกส่งต่อไปยังลูกหลาน และเมื่อถึงคราวที่ต้องใช้ แม้เพียงครั้งเดียวก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว ดังคำกล่าวที่ว่า “ซ้อมให้เหมือนรบ รบให้เหมือนดังเช่นที่ซ้อม”
.
เคยมีหลายครั้งที่จู่ๆก็มีเสียงวิทยุเรียกด่วนมายังฝูงบินแห่งหนึ่งติดชายทะเล เรียกให้ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยกลางทะเลบ้าง ช่วยเหลือคนปีนเขา ค้นหาเรืออับปาง อีกหลายชีวิตที่รอดตายก็เพราะนักบินเฮลิคอปเตอร์กลุ่มนี้ หลายคนคงไม่สะอึกหากไม่เกิดสงครามจริง ก็คงยังตั้งคำถามนานากับการฝึกเตรียมความพร้อมของพวกเขา มีคำกลอนหนึ่งอาจกระตุกให้ฉุกคิดขึ้นมาได้บ้างว่า
.
“ผืนแผ่นดินถิ่นนี้ที่ยืนอยู่
แต่ครั้งปู่ของปู่อยู่อาศัย
ท่านหลั่งเลือดเสียเนื้อก็เพื่อใคร
หากมิใช่พิทักษ์ไว้ให้หลานนอน”
.
แน่นอนว่าในรั้วโรงเรียนการบิน ครูจะสอนท่าทางพื้นฐานให้ ซึ่งทุกสิ่งอย่างบนโลกนี้นั้น มันต้องเริ่มจากพื้นฐาน และหากเบสิกแน่น การต่อยอดย่อมมิใช่เรื่องยาก ในบริบทของนักบินพาณิชย์นั้น ได้กำหนดสมรรถนะสำหรับนักบินเอาไว้อยู่ 9 อย่าง (ย้อนอ่านบทความเรื่องสมรรถนะนักบินในโพสก่อนๆ) แต่สำหรับนักบินทหารนั้น บอกเลยว่าต้องมีมากกว่านั้นอย่างแน่นอน หากให้ประเมินแล้ว นักบินทหารจะต้องมีสมรรถนะเพิ่มเติมดังต่อไปนี้
.
1) Combat Readiness and Tactical Proficiency – ความพร้อมรบและเชี่ยวชาญการบินทางยุทธวิธี
2) Mission Planning and Execution – ทักษะการวางแผนและการปฏิบัติการ
3) Advanced Navigation and Terrain Following – การนำทางขั้นสูง/การบินตามภูมิประเทศ
4) Survival, Evasion, Resistance, and Escape (SERE) Training – การเอาตัวรอด/หลบหลีก/ต่อต้าน/หลีกหนี
5) Coordination with Multiple Units and Forces – ทักษะการประสานงานร่วมกับกองกำลังต่างๆ
6) Advanced Situational Awareness and Threat Detection – ตระหนักรู้ในสถานการณ์ขั้นสูง/การดักจับภัยคุกคาม
7) Leadership Under Combat Conditions – ภาวะผู้นำภายใต้สถานการณ์รบ

9) Psychological Resilience and Stress Management – ความยืดหยุ่นทางจิตวิทยาและการจัดการความเครียด
.
เพราะพวกเขาถูกฝึกมาแบบนั้น ไม่รู้ว่าทุกวันนี้ค่าตัวของพวกเขาสมกับราคาที่ได้รับหรือไม่ รู้แค่ว่าทุกหน่วยงานที่มีพวกเขาใช้ถือได้ว่าสารพัดประโยชน์ยิ่งนัก เมื่อประยุกต์เอาพื้นฐานที่นักบินทั่วไปพึงมีมาใช้ ย่อมเป็นการผสมผสานที่ลงตัว ไม่ว่าจะนักบินพาณิชย์หรือนักบินทหาร เราต่างก็ใช้ท้องฟ้าร่วมกัน ไม่มีแบ่งแยก
.
กฎการบินพื้นฐานก็ใช้ร่วมกัน หัวใจ ‘นก’ ที่สวมใส่เมื่อกางปีก ก็ใช้หัวใจสายพันธุ์เดียวกัน อาจมีบางหลักการที่แตกต่าง นั่นขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของภารกิจ
หากในยามสงคราม ‘นก’ สายพันธุ์ทหาร อาจต้องบินในอีกรูปแบบหนึ่ง แต่ถ้าในยามปกติ เมื่อเท้าพ้นพื้น มุ่งไปบนท้องฟ้า ครั้นภารกิจสำเร็จ ก็บินกลับคืนรัง เข้าคอนเซ็ปต์ ‘Land and live’ เหมือนกันทุกคน
.
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ก็ต้องบอกได้ว่า สีสันของเหล่าเฮลิคอปเตอร์นั้นค่อนข้างฉูดฉาด มันขีดเขียนท้องฟ้าให้ดูน่าหลงใหลยิ่งนัก
เพราะปีกของเฮลิคอปเตอร์นั้นไม่เหมือนใคร หากใครได้สัมผัสจะรู้ซึ้งถึงรสชาติว่าอากาศยานประเภทนี้นั้น .. มันพิเศษเช่นไร
.

.
อ่านบทความอื่นๆได้ใน Facebook Page : Hovering Inspirations 👇
https://www.facebook.com/profile.php?id=61558412223812&mibextid=ZbWKwL