Skip to content

นักบินจดไดอารี่ทุกวัน

ผ่านสมุดเล่มหนึ่ง สมุดที่ชื่อว่า ‘Pilot Logbook’
.
ย้อนไปเมื่อปี 2006 วันที่ 31 ตุลาคม ผมจรดดินสอลงสมุดบันทึกชั่วโมงบินครั้งแรก มันคือชั่วโมงที่หนึ่ง ชั่วโมงบินแรกของชีวิต ชั่วโมงบินที่ขึ้นไปบนฟ้าแล้วรู้สึกเหวอ ระคนไปกับความตื่นเต้น ปะปนไปกับแรงบันดาลใจลึกๆที่ซุกซ่อนอยู่ในใจมาเนิ่นนาน
.
สมุดเล่มนี้คือสมุดส่วนตัวของนักบิน ของใครของมัน ทุกครั้งที่เรานำเครื่องขึ้นบิน เมื่อเราบินกลับลงมาแล้ว เราจะต้องกรอกข้อมูลการบินของเที่ยวบินในวันนั้นลงในสมุดเล่มนี้
.
หากย้อนไปไกลสมัยกำเนิดเครื่องบิน (ช่วงปี 1900 – 1910) เหล่านักประดิษฐ์จะจดบันทึกงานทดลอง การบินทดสอบอย่างละเอียด ในทุกๆการขึ้นบิน พวกเขาต้องบันทึกทุกหลักฐาน เพื่อการพัฒนาต่อยอดกระทั่งความฝันของการมีปีกของมนุษย์เป็นจริง .. วันที่เราบินได้
.
กระนั้นแล้วการบันทึกยังคงมีอยู่ตลอดทุกกิจกรรมที่เกิดขึ้น สิ่งที่พวกเขาจดประกอบไปด้วย เส้นทางบิน วัน เวลา นักบินที่บินด้วยกัน ภารกิจบิน และอื่นๆ
มันคือปูมการบินส่วนตัว เปรียบเหมือนไดอารี่เล่มเล็ก คือรอยปีกที่วาดทางฝันไว้บนฟ้าแล้วถ่ายทอดลงไว้ในสมุด
.
ยุคสงครามโลก (ปี 1914 – 1945) เมื่อเครื่องบินถูกนำมาใช้ในยามสงคราม นักบินทหารจำเป็นต้องจดบันทึกชั่วโมงบินของพวกเขา เพื่อสะสมชั่วโมงบินสำหรับการฝึกอบรมภารกิจบินทางทหาร การบินทางยุทธวิธีต่างๆ ซึ่งจำเป็นต้องคัดเลือกคุณสมบัติของนักบินจากชั่วโมงบิน
.
ต่อมาในยุคเริ่มแรกสมัยการบินเชิงพาณิชย์ (ช่วงปี 1940 – 1960) การจัดทำ Pilot Logbook จึงเริ่มมีแบบแผน มีความเป็นมาตรฐานมากขึ้น เนื่องเพราะวิชาชีพนักบิน เราต้องสะสมทักษะ ความรู้ ผ่านประสบการณ์การทำงานจริงๆ ใครมีชั่วโมงบินที่เยอะ ย่อมมีปีกที่กล้าแกร่ง เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานนักบิน และมันคือเครื่องการันตีคุณสมบัติ ความสามารถ ความชำนาญว่าเรามีประสบการณ์บนฟ้ามามากขนาดไหน
.
การทำหน้าที่บนฟ้าที่ได้กำหนดบทบาทของทั้งกัปตันและนักบินผู้ช่วยเอาไว้นั้น เมื่อพวกเขาสะสมชั่วโมงในหน้าที่ที่ได้รับมากขึ้นเท่าไร เครดิตที่พวกเขาจะได้รับบนเส้นทางอาชีพก็จะสูงขึ้นเท่านั้น
.
ยกตัวอย่างเช่น จะเป็นกัปตันได้ต้องมีชั่วโมงบินรวมมากกว่า 1,500 ชั่วโมง ต้องทำหน้าที่ในบทบาทของผู้บังคับอากาศยานไม่น้อยกว่า 500 ชั่วโมง หรือในกรณีนักบินเฮลิคอปเตอร์ทหารที่ต้องบินลงเรือรบกลางทะเล ควรมีชั่วโมงบินลงเรือไม่ต่ำกว่ากี่ชั่วโมง จึงจะสามารถขอเลื่อนระดับเป็นกัปตันบินลงเรือได้ (ขึ้นอยู่กับการกำหนดของแต่ละหน่วยงาน)
.
แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าพวกเขามีชั่วโมงบินในภารกิจต่างๆเท่าไรกันแล้วบ้าง
.
Pilot Logbook คือคำตอบ มันคือหลักฐานชิ้นดีของการเก็บเกี่ยวประสบการณ์บนฟ้าของเหล่านักบินทุกคน
.
ครั้นโลกพัฒนากระทั่งระบบการบันทึกชั่วโมงบินเริ่มมีรูปแบบที่แจ่มชัดขึ้น สมุด Pilot Logbook จึงถูกบังคับไว้ว่า จำเป็นต้องมีข้อมูลอะไรบ้าง ต่อไปนี้คือตัวอย่างข้อมูลที่ต้องจดบันทึกทุกครั้งหลังการบิน
.
1. Personal Details – ข้อมูลส่วนตัวนักบิน
ต้องเขียนชื่อ ที่อยู่ และช่องทางการติดต่อของเราให้ครบถ้วน
.
2. Flight Details – รายละเอียดแต่ละเที่ยวบิน ประกอบไปด้วย
– วันที่ทำการบิน
– สนามบินต้นทางและสนามบินปลายทาง
– ประเภทและรุ่นของอากาศยานที่ทำการบิน
– ทะเบียนของอากาศยานที่บิน
– แยกชั่วโมงบินระหว่างอากาศยานแบบเครื่องยนต์เดียวกับแบบมีหลายเครื่องยนต์
– ชั่วโมงรวมที่บินในเที่ยวบินนั้น (ข้อนี้สำคัญมาก)
.
3. Pilot Function – ช่องนี้จะลงเวลาที่เราบินในบทบาทต่างๆของเที่ยวบินนั้น เช่น บินในฐานะ PIC (Pilot In Command – ผู้บังคับอากาศยาน) , Co-Pilot (ผู้ช่วยนักบิน) หรือจะเป็นบทบาทของครูฝึกบิน (Flight Instructor) ซึ่งก็จำเป็นต้องลงบันทึกเพื่อสะสมชั่วโมงการสอนบินลงไปด้วยทุกครั้งที่มีการสอน
.
4. Operation Conditions – ประเภทของภารกิจในเที่ยวบินนั้น เช่น บินกลางคืน, บินเดินทาง หรือทำการบินด้วยเครื่องวัดประกอบการบิน เป็นต้น
.
5. Simulator Time – ช่องสำหรับลงชั่วโมงบินเวลาทำการบินกับเครื่องฝึกบินจำลอง กรณีมีบินกับ Simulator นักบินก็ต้องจดบันทึกชั่วโมงบินไว้ด้วยทุกครั้ง
ทั้งหมดนี้คือข้อมูลที่สำคัญ นักบินจะต้องจดบันทึกไว้ทุกเที่ยวบิน โดยรูปแบบของ Pilot Logbook จะต้องเป็นรูปแบบที่ถูกต้อง มีมาตรฐาน มีการรับรองชั่วโมงบินจากผู้มีอำนาจของหน่วยงานหรือบริษัทที่นักบินทำงานอยู่ด้วย
.
เมื่อชั่วโมงบินต่างๆถูกสะสมมากขึ้น ไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆกระทั่งครบคุณสมบัติที่จะขอเลื่อนระดับในเส้นทางอาชีพ นักบินก็จะนำสมุด Pilot Logbook นี้มาใช้แสดงเป็นหลักฐาน เพื่อขอเข้าสู่กระบวนการในการเลื่อนตำแหน่งของบริษัทต่อไป
.
ปัจจุบันมี Electronic Logbooks (สมุดบันทึกชั่วโมงบินรูปแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์) เพิ่มความสะดวกให้กับนักบินขึ้นมาอีก ข้อมูลของชั่วโมงบินจะถูกคำนวณผลรวมสะสมของแต่ละภารกิจได้ด้วยความแม่นยำมากขึ้น ลดความคลาดเคลื่อนจากการจดลงบนกระดาษและการคำนวณตัวเลขเอง แถมไฟล์ข้อมูลก็ฝากไว้ในระบบคลาวด์ได้
.
แต่หากจะใช้ Logbooks แบบดิจิตัลนี้ ก็ต้องใช้ตามรูปแบบที่องค์กรยอมรับด้วย ต้องมีช่องให้ใส่ข้อมูลครบ และสุดท้ายการจะนำมาใช้แสดงเพื่อเป็นหลักฐานใดๆ ก็ยังจำเป็นต้องปริ้นท์ออกมาเป็นกระดาษและให้ผู้มีอำนาจลงชื่อรับรองให้อยู่ดี
.
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวผมยังคงเก็บ Logbook ในรูปแบบของสมุดเอาไว้อยู่ เขียนควบคู่ไปกับการกรอกชั่วโมงบินบนไฟล์ดิจิตัล เก็บคู่ขนานกันไป กลิ่นอายของกระดาษมันก็ยังขลังกว่าไฟล์ในอากาศอยู่ดี แต่เมื่อมีเทคโนโลยีเข้ามาช่วย เราก็ต้องใช้มันให้เป็นประโยชน์ เอามาใช้ช่วย cross-check ความถูกต้องของข้อมูลซึ่งกันและกัน
.
ปีนี้ก็ยังคงบันทึกชั่วโมงบินอยู่อย่างต่อเนื่อง ผมจรดปากกาลงบนสมุดไดอารี่ส่วนตัว บันทึกชั่วโมงบินของแต่ละวัน พร้อมทบทวนสิ่งที่ผ่านมาเมื่อสิ้นสุดวัน ครั้นหวนไปเปิดหน้าแรกสุดของสมุด Pilot Logbook เล่มแรกในชีวิต ก็นึกถึงภาพเก่าๆ วันแรกที่เหวอ ท้องฟ้าที่งดงามในวันนั้นก็ยังคงประทับใจอยู่
.
รอยปีกที่วาดไว้บนฟ้าทุกเที่ยวบิน ถูกเขียนลงบนสมุด ถูกฝากไว้บนคลาวด์ ถูกเก็บไว้บนอากาศ
.
วิชาชีพนี้ นอกจากจะเป็นนักอ่านตัวยงแล้ว ยังต้องเป็นนักเขียน เป็นนักจดบันทึกตัวฉกาจอีกด้วย สุภาษิตจีนหนึ่งเขียนไว้ว่า
.
“The palest ink is better than the best memory”
<หมึกที่ซีดที่สุด มันก็ยังดีกว่าหน่วยความจำที่ดีที่สุด>
.
เช่นนั้นแล้ว เป็นนักบินต้องจดทุกวันที่มีบิน การจดไม่สูญเปล่าแน่นอน เพราะชั่วโมงบินคือศักย์ที่เราสะสมไว้บนปีกของเราเอง
.
.

อ่านบทความอื่นๆได้ใน Facebook Page : Hovering Inspirations 👇

https://www.facebook.com/profile.php?id=61558412223812&mibextid=ZbWKwL

1 thought on “นักบินจดไดอารี่ทุกวัน”

ส่งความเห็นที่ Cara1746 ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *