Skip to content

Recency Bias – อคติแห่งความสดใหม่

เมื่อเหตุการณ์ล่าสุดหลอกเราซ้ำแล้วซ้ำเล่า
.
หนึ่งในกับดักทางความคิด ที่เกิดจากความทรงจำล่าสุด และมันบดบังการตัดสินใจของเราในชีวิตประจำวัน หรือแม้แต่หลอกนักบินที่กำลังคอนโทรลเครื่องอยู่บนอากาศได้อย่างแนบเนียน
.
แดเนียล คาห์เนอมัน (Daniel Kahneman) นักจิตวิทยารางวัลโนเบลชาวอิสราเอล-อเมริกัน และเป็นเจ้าของหนังสือชื่อดังระดับโลก หนังสือ Thinking, Fast and Slow เขาเคยบอกไว้ว่า
.
“เรามักตัดสินอนาคต จากเสียงดังวุ่นวายของปัจจุบัน”
<“We judge the future by the noise of the present.” – Daniel Kahneman>
.
มนุษย์คือสิ่งมีชีวิตที่ชอบจดจำ แต่ความจำของเรานั้น มักชอบเข้าข้างสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นล่าสุด
.
ไม่ใช่เพราะมันสำคัญกว่า
.
แต่เพราะมัน ‘สด’ กว่า
.
นี่คือกับดักของสมองที่เรียกว่า Recency Bias คือ อคติที่ทำให้เรายึดติดกับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น และละเลยสิ่งที่ควรพิจารณาอย่างมีเหตุผล
.
หากเกิดในห้องนักบิน มันอาจทำให้กัปตันเชื่อว่าปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้เหมือนปัญหาที่เคยเกิดในครั้งก่อน ทั้งที่สาเหตุที่แท้จริง .. อาจต่างกันโดยสิ้นเชิง
.
คำนิยามของ Recency Bias
.
Recency Bias คือแนวโน้มที่มนุษย์จะให้น้ำหนักกับข้อมูล เหตุการณ์ หรือประสบการณ์ล่าสุด มากกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้า หรือข้อมูลที่สมบูรณ์กว่าแต่เข้าถึงยาก
.
แดเนียล เจ. เลวิติน นักประสาทวิทยาชาวแคนาดา-อเมริกัน บอกว่า เมื่อข้อมูลถูกดึงขึ้นมาได้ง่าย เรามักเข้าใจผิดว่ามัน ‘ถูกต้อง’ เพียงเพราะมัน ‘จำง่าย’
<“When information is easy to recall, we confuse ease with accuracy.”
— Daniel Levitin, ผู้เขียนหนังสือ “สมองเป็นระเบียบ” – The Organized Mind>
.
คำอธิบายทางจิตวิทยาคือ
.
สมองของเราชอบสิ่งที่ ‘จำง่าย’ มากกว่าสิ่งที่ ‘คิดยาก’ เพราะการคิดวิเคราะห์ต้องใช้พลังงาน และสมองของคนเราก็ชอบขี้เกียจโดยธรรมชาติ
.
จากข้อจำกัด สู่ความลำเอียง
.
Recency Bias แตกต่างจากปรากฏการณ์ที่เรียกว่า Recency Effect ซึ่งหมายถึงความสามารถของคนเราที่จะจำ ‘สิ่งสุดท้าย’ ได้ดีกว่าส่วนอื่นๆในลำดับนั้นๆ เช่น หมายเลขท้ายๆ ของชุดตัวเลข ที่เรามักจะจำกันได้แม่น
.
อธิบายง่ายๆคือ
.
– Recency Effect คือข้อจำกัดของความจำระยะสั้น
– Recency Bias คือความลำเอียงในการตัดสินใจ
.
ดังนั้น
.
Recency Effect คือสิ่งที่สมองทำไม่ได้ เป็นข้อจำกัดของความจำ ในขณะที่ Recency Bias คือสิ่งที่เราเลือกที่จะทำหรือไม่ทำ
.
ในโลกของการบิน Recency Bias แฝงตัวอยู่ในหลายเหตุการณ์ เช่น
.
การวิเคราะห์ที่ผิดพลาดของนักบิน
.
เมื่อเห็นค่าพารามิเตอร์เครื่องยนต์ผิดปกติ นักบินอาจนึกถึงเหตุการณ์คล้ายกันล่าสุด
.
และตีความผิดพลาด เพราะ “คิดว่าใช่” ต้องเกิดอาการแบบนี้แน่ๆ และต้องแก้แบบเดิมที่เคยทำ .. แต่อันที่จริง “ไม่ใช่”
.
Recency Bias ในชีวิตประจำวันก็พบบ่อยมาก
.
เราพบอคติชนิดนี้ได้ในหลายเรื่อง เช่น
.
– หุ้นขึ้นเมื่อวาน วันนี้รีบซื้อตาม โดยยังไม่ทันดูปัจจัยอื่นๆ
– การตัดสินคนจากพฤติกรรมที่เพิ่งเกิดขึ้นล่าสุด
– หลงเชื่อโฆษณาซ้ำๆเพราะเห็นบ่อย
– รีวิวล่าสุดของร้านอาหารบอกว่าแย่ ทำให้เราตัดสินใจเปลี่ยนร้าน ทั้งๆที่รีวิวก่อนหน้า 200 รีวิวบอกว่าดีเยี่ยม
.
เหตุการณ์หนึ่งอาจไม่ใช่ข้อพิสูจน์ของแนวโน้มทั้งหมด และ ‘อคติ’ ทำให้เราลืมมองภาพรวม
.
อันตรายของ Recency Bias มีผลต่อการตัดสินใจมาก
.
ในสถานการณ์ฉุกเฉิน สมองจะเลือกสิ่งที่เข้าถึงง่ายที่สุด ซึ่งมักเป็น “สิ่งล่าสุดที่เคยเจอ” แต่มันไม่ใช่ “สิ่งที่ถูกต้องที่สุด”
.
สิ่งนี้สัมพันธ์กับงานวิจัยของ แดเนียล คาห์เนอมัน (Daniel Kahneman) ที่ระบุว่า มนุษย์มีระบบความคิดอยู่ 2 แบบได้แก่
.
System 1 – คิดเร็ว อัตโนมัติ ใช้ความรู้สึก
System 2 – คิดช้า ใช้เหตุผล วิเคราะห์ลึก
.
Recency Bias คือผลิตผลของ System 1 ที่ไม่ได้ถูก ‘ตรวจสอบ’ โดย System 2
.
พูดง่ายๆก็คือ Recency Bias เกิดขึ้นเมื่อ System 1 เข้าครอบงำสมองของเรา
.
ทางออก ไม่ใช่การที่ต้องจำทุกอย่างให้แม่น แต่คือการรู้ว่าเรากำลังหลงอะไรอยู่รึปล่าว มีหลายวิธีช่วยฝึกได้แก่
.
1. ฝึก CRM & TRM จำลองสถานการณ์ แชร์ประสบการณ์จริง บอกเล่าว่าเคยพบ Recency Bias และทำให้ตัดสินใจผิดอย่างไร ยิ่งเล่าจากประสบการณ์ตรง ยิ่งกระตุ้นการเรียนรู้
.
2. ใช้ Checklist แม้ในสถานการณ์คุ้นเคย
“ความคุ้นเคย” คือดาบสองคม
เพราะความคุ้นเคยมักถูก Recency หลอกว่า “เหมือนเดิม”
.
3. เปิดโอกาสให้ทีมเสนอ “ทุกแนวทาง” โดยไม่ลำเอียงต่อคำตอบสุดท้าย ในบางกรณี คำตอบแรกอาจดีกว่าคำตอบท้าย ในบางกรณี คำตอบท้ายคือสิ่งที่ควรทำ แต่ที่แน่ๆ คือ .. อย่าให้ “ลำดับเวลา” มากำหนด “คุณภาพของคำตอบ”
.
4. เก็บข้อมูลให้มาก ก่อนตัดสิน อย่าด่วนสรุปจากความรู้สึก เพราะความรู้สึกมักจำแต่สิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น ไม่ใช่สิ่งที่เคยเกิดขึ้นเสมอไป
.
5. ยอมรับว่าบางอย่าง .. เกิดขึ้นแบบสุ่ม
.
มนุษย์ชอบ ‘เชื่อมจุด’ แต่บางครั้งจุดนั้นไม่ได้มีอะไรเชื่อมและสัมพันธ์กันเลย
.
บทสรุปคือ อย่าเชื่อสมองเพียงเพราะมันจำง่าย
.
Recency Bias ไม่ใช่ความผิดของใคร
.
แต่คือกับดักที่ต้องรู้ทัน
ในห้องนักบิน ในชีวิตประจำวัน
.
เราควรสงสัยทุกความรู้สึกที่บอกว่า “เพิ่งเกิดแบบนี้ ฉะนั้นมันต้องเกิดอีกแน่”
.
ยั้งใจคิดไว้สักนิดว่า .. มันอาจไม่เหมือนเดิม
.
เพราะความรู้สึกที่เพิ่งเกิดขึ้น .. อาจจำแม่น
.
แต่ก็หลอกเก่งไม่แพ้กัน
.
ตัวย่อที่ควรรู้
.
CRM ย่อมาจาก Crew Resource Management
.
คือแนวคิดการจัดการทรัพยากรของลูกเรือเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการบิน โดยเน้น การสื่อสาร การทำงานเป็นทีม การตัดสินใจ และการบริหารความผิดพลาดภายในห้องนักบิน
.
TRM ย่อมาจาก Team Resource Management
.
คือแนวคิดเดียวกับ CRM แต่ขยายออกไปครอบคลุม ทีมงานภาคพื้นดิน เจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศ (ATC) ผู้ดูแลสนามบิน ฯลฯ เพื่อให้ทุกฝ่ายทำงานประสานกัน ลดความผิดพลาดที่เกิดจากการสื่อสารข้ามทีม
.
.

อ่านบทความอื่นๆได้ใน Facebook Page : Hovering Inspirations 👇

https://www.facebook.com/profile.php?id=61558412223812&mibextid=ZbWKwL

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *