เรื่องนี้ถอดมาจากตำราวิชาปัจจัยมนุษย์ของนักบิน ในหัวข้อเรื่องการตัดสินใจ (Decision Making) เป็นติ่งย่อยที่น่าสนใจและห้ามพลาด ทฤษฎีบอกว่า มนุษย์ย่อมผิดพลาด หากแต่จะดีกว่าหากเรารู้ว่าเมื่อไรที่เรามีโอกาสที่จะตัดสินใจผิดพลั้งไป
.
งานบนฟ้า พลาดไม่ได้ ทุกการขบคิดล้วนมีความหมาย การตัดสินใจพลาดไม่ใช่เรื่องของดวงซวย แต่เป็นเรื่องของ “กระบวนการคิด” ไม่ว่าจะเป็นความรู้ไม่แน่น ประเมินข้อมูลผิด หรือรีบเร่งเกินไป
.
ทฤษฎีบอกว่ากระบวนการตัดสินใจของนักบินมี 9 ขั้นตอนได้แก่
.
1. กำหนดเป้าหมาย (Definition of the aim)
2. รวบรวมข้อมูล (Collection of information)
3. ประเมินความเสี่ยง (Risk assessment)
4. คิดหาทางเลือก (Development of options)
5. เปรียบเทียบทางเลือก (Evaluation of options)
6. ตัดสินใจ (Decision)
7. ลงมือทำ (Implementation)
8. เฝ้าดูผลลัพธ์ (Consequences)
9. ทบทวนและดู Feedback (Review and feedback)
.
ความผิดพลาดหรือ Errors นั้น สามารถเกิดได้ในทุกขั้นตอนทั้ง 9 ข้อนี้ จะเกิดขึ้นช่วงไหนก็ได้ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่เร่งด่วน สมองมักจะข้ามขั้นตอนโดยไม่รู้ตัว ฉะนั้น “สติ” จึงสำคัญมาก
.
ว่ากันว่าจุดแข็งของมนุษย์ในเรื่องการตัดสินใจมีอยู่ 3 อย่างได้แก่ ความคิดสร้างสรรค์, การปรับตัว และการคิดนอกกรอบ
.
ทว่า ในขณะเดียวกันก็มีจุดอ่อนอยู่ 3 อย่างเช่นกันคือ มักมีแบบจำลองความคิดที่ผิด, สันชาตญาณการตอบโต้กลับแบบอัตโนมัติที่ไม่ค่อยจะเหมาะสม และการขาดข้อมูลย้อนกลับ
.
จุดอ่อนเหล่านี้จะลดทอนลงได้ เราจึงควรเรียนรู้เรื่อง “สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อความผิดพลาด” หมายถึง “เราต้องรู้ว่าขณะนั้นเรากำลังอยู่ในเงื่อนไขใด” เพื่อดักให้ทันตัวเองก่อน ประมาณว่า อะไรส่งผลให้เราเกิด Errors ได้
.
งานวิจัยตกผลึกสิ่งเหล่านั้นมาให้พวกเราเรียบร้อยแล้ว และมันคือสิ่งที่นักบินต้องเผชิญทุกวัน ทั้งแบบรู้ตัวและไม่รู้ตัว ซึ่งถ้าไหวตัวทัน เราจะไม่ตกเป็นเหยื่อของสิ่งต่างๆต่อไปนี้
.
1. ความเครียด (Stress) – งานของนักบินย่อมต้องเผชิญต่อความเครียดอยู่บ่อยครั้ง แต่ความเครียดไม่ใช่ศัตรูเสมอไป เปรียบเสมือนเพื่อนที่ต้องรู้จักใช้ให้เป็นประโยชน์ ถ้าใช้เป็น ความเครียดจะทำให้เรารู้จักโฟกัส มีสมาธิ และตัดสินใจได้ดีขึ้น แต่ถ้าหากเครียดเกินไป ก็ต้องไม่ฝืน อย่าปล่อยให้ความเครียดมาปิดกั้นสมองส่วนหน้าของเราเด็ดขาด ต้องรู้ตัว รู้จักผ่อนคลาย
.
2. เวลาที่จำกัด (Time Pressure) – บนฟ้า ยิ่งมีเวลาตัดสินใจน้อย แต่ห้ามใจร้อนเด็ดขาด ความเร่งรีบเกินไปมักจะทำให้พลาดขั้นตอน ข้ามเช็กลิสต์ เคยเจอมากับตัว นักบินที่บินอยู่ด้วยกัน รีบจะไปดับเครื่องยนต์ที่ดีเมื่อเจอสถานการณ์เครื่องยนต์อีกเครื่องหนึ่งขัดข้อง
.
3. งานล้นมือ (Distraction / Task Saturation) – เรื่องนี้นับได้ตั้งแต่ก่อนเท้าพ้นพื้น นักบินบางคนในบางหน่วยงาน มีภาระงานที่พื้นเยอะจัด แบกสมองที่อ่อนล้าขึ้นไปบนอากาศด้วย พอเวลาบิน สมองจะตื้อ คนเรานั้น สมองมีพลังงานจำกัดในแต่ละวัน หากเอาเวลาไปใช้กับเรื่องต่างๆมากเกินไป พอมีเหตุคับขันเกิดขึ้นบนฟ้า มันจะคิดไม่ออก ตัดสินใจไม่ทัน
.
หรือกรณีบินอยู่บนท้องฟ้า มือและเท้าต้องคอยคอนโทรลเครื่อง ปากต้องพูด ติดต่อสื่อสาร สมองต้องคิดถึงเส้นทางการบิน โปรไฟล์ของเครื่อง ท่าทางของเครื่อง หากมีอะไรผิดปกติเข้ามาแทรกแซง จังหวะนั้นจึงต้องใช้หลักการ Aviate, Navigate และ Communicate ให้ทันเวลา
.
4. แรงกดดันจากเพื่อนร่วมงาน (Peer Pressure) – ประเด็นนี้ชัดเจนมากสำหรับบางองค์กรที่ยังใช้ระบบเก่าคร่ำคร่าในการบินอยู่ ระบบนั้นคือระบบอาวุโส ในลักษณะที่ว่ากัปตันไม่ฟังใคร นักบินผู้ช่วยนั่งเงียบกริบเป็นใบ้ กัปตันต้องถูกอยู่เสมอ แบบนี้บรรยากาศในการทำงานย่อมเละเทะ มืดสนิท เพราะการบินคือการทำงานเป็นทีม ต้องนำหลัก CRM (Crew Resource management) เข้ามาช่วยฝึก เอามาล้างวัฒนธรรมโบราณให้สิ้น ฟังเสียงของทีมให้มาก
.
5. ความกดดันจากสายการบินหรือภารกิจที่ได้รับ (Operation Pressure) – เรื่องนี้ก็ยังพบอยู่บ่อยในบางองค์กร บางภารกิจการบินที่มีความกดดันจากหลายฝ่าย โดยมากมักเป็นภารกิจการบินของทหาร หรือหน่วยงานที่ต้องทำการบินในพื้นที่เสี่ยงภัยต่างๆ ต้องยอมรับว่ากลุ่มงานเหล่านี้ไม่ง่ายเลย นอกจากจะต้องทำการบินให้ปลอดภัยด้วยแล้ว ยังต้องทำงานภายใต้สภาพแวดล้อมที่อันตรายอีกด้วย เช่น นักบินเฮลิคอปเตอร์ที่ต้องบินไปค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัย งานบินดับไฟป่าเป็นต้น
.
6. ความกดดันจากตัวเอง (Self-Imposed Pressure) – ในขณะที่ยังมีนักบินบางคนที่มักชอบ “พิสูจน์ตัวเอง” ว่าข้านี้เจ๋ง เราต้องทำให้ได้ อย่างที่เคยบอกไปหลายครั้งว่า ไม่มีนักบินที่เก่งที่บ้าบิ่นมีชีวิตอยู่ได้นานหรอก ต้องท่องคอนเซ็ปต์ของการบินเอาไว้ให้จับใจว่า “จง Land and Live ในทุกเที่ยวบิน” การลงจอดให้ปลอดภัยนั้นจึงสำคัญที่สุด ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ความเก่งกาจของเราให้ใครชม
….
โดยสรุป รู้ตัวเอง รู้อารมณ์ ฟังเสียงทีม กล้าพักเมื่ออ่อนล้า กล้าปฏิเสธ กล้ารีเซ็ต ทบทวนเคสเก่าๆเสมอ เพื่อมิให้ซ้ำรอย
.
มีคำกล่าวนึงว่าไว้
“A wrong decision made fast is still a wrong decision.”
(การตัดสินใจที่ผิด แม้จะทำเร็ว ก็ยังคงผิดอยู่ดี)
.
ทักษะการตัดสินใจที่ดีจึงไม่ใช่เพียงแค่ “รู้ว่าจะเลือกอะไร” หากแต่ “รู้ว่าเรากำลังอยู่ในเงื่อนไขใด” และต้อง “รู้เท่าทันตัวเอง” ก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรลงไป
.

.
อ่านบทความอื่นๆได้ใน Facebook Page : Hovering Inspirations 👇
https://www.facebook.com/profile.php?id=61558412223812&mibextid=ZbWKwL