เหงื่อไหลอาบบนใบหน้าที่นิ่งนั้น จากหน้าผากผ่านมายังปลายจมูก เขายืนตั้งท่ารับลูกเสริฟ สายตาจ้องนิ่งไปที่ฝั่งตรงข้าม สมองเขาต้องการสมาธิ เสียงเชียร์อันตรธานหายไป สายตาจ้องอยู่ที่ลูกขนไก่และแร็กเกตของคู่ต่อสู้
.
แต้มในขณะนั้น หากคู่ต่อสู้ทำได้อีกแต้มเดียว เขาจะแพ้ทันที .. แต่เขานิ่ง นิ่งราวกับไม่ไยดีในแต้ม หรือเขาลืมมันไปชั่วขณะ ไม่มีใครรู้ .. เพราะแต้มของเขายังห่างจากคู่ต่อสู้มากถึง 10 แต้ม ถือว่าตามหลังอยู่มาก .. แต่เขายังนิ่งอยู่
.
ยายสมจิตร นอนบนเตียงมานานกว่า 3 เดือนแล้ว ยายเป็นผู้ป่วยติดเตียง ลูกหลานผลัดกันมาเฝ้ายาย ห้อมล้อมยายกันด้วยความรัก ยายรู้ว่ายายเป็นอะไร แต่ลูกหลานไม่ยอมบอก
.
3 เดือนก่อน หมอบอกลูกของยายว่ายายเป็นมะเร็งเต้านมระยะสุดท้าย ไม่ต้องคาดเดาเวลาที่เหลืออยู่ สำหรับยาย ผู้ที่ผ่านโลกมามากกว่า 75 ปีแล้ว ร่างกายแข็งแรงมาโดยตลอด แม้ลูกหลานปิดบังเรื่องมะเร็ง แต่ก็ไม่อาจปิดบังคนที่กร้านชีวิตมาถึงวัยนี้ได้
.
ยายยิ้ม ยายมีความสุข ยายยังนอนอยู่ที่เตียงเดิม ดูทีวี กินข้าว มองดูลูกหลานด้วยสีหน้าที่ปราศจากความกังวล ..คุณยายดูนิ่งมากเกินกว่าที่หลานๆจะเข้าใจ
ชายผู้พิการทั้งแขนและขา เขานอนอยู่ใต้สะพานพุทธมานานกว่า 3 เดือนแล้ว เขามาที่นี่ทุกวันเพื่อมารับงาน เขารับจ้างวาดรูป เพราะเขารัก เขากำลังเรียนสาขาจิตรกรรมสากล เขาเหลือเวลาอีกแค่เดือนเดียว เขายังต้องหาเงินเพิ่ม เพราะจะครบกำหนดจ่ายค่าเทอมแล้ว ..
.
เขาหนีที่บ้านมาเพราะที่บ้านไม่อยากส่งให้เขามาเรียนที่กรุงเทพฯ พ่อแม่ไม่อาจทนเห็นลูกลำบาก ไม่อยากให้ลูกถูกดูแคลนจากสังคม แต่เขาดื้อ เขาไม่ยอมแพ้ในโชคชะตา เขามั่นใจในศักยภาพของตัวเอง เขาเดินทางมาสมัครเรียนเอง หาเงินเอง .. และตอนนี้ เวลาไล่บี้เขามา เหลืออีกแค่เดือนเดียวแล้ว เขาอาจต้องนอนน้อยลง จากคืนละ 3 ชั่วโมง เหลือ 2 ชั่วโมง เพื่อให้ได้งานเพิ่มขึ้นมาอีกสักชิ้นสองชิ้นก็ยังดี ซึ่งมันอาจทำให้เขาได้ไปต่อ
.
ขณะวาดภาพ สีหน้าเขานิ่ง .. นิ่งเกินกว่าที่ลูกค้าจะเข้าใจ
……………………………………………………………
เกมส์กีฬาที่แบ่งกันเป็น 2 ฝ่ายแล้วนับแต้ม ฝ่ายไหนทำแต้มจนถึงแต้มสุดท้ายก่อน ก็ชนะไป และใครขึ้นแท่นก่อนย่อมได้เปรียบ (หมายถึงเหลืออีกแต้มเดียวจะชนะ นั้นเรียกว่า ‘แมทช์พ้อยท์”)
.
95% ของคนทั่วไป เมื่อใดเจอสถานการณ์ถูกไล่บี้ ฝ่ายตรงข้ามไล่มาจนเกือบจะรุกฆาตแล้ว หรืออีกแต้มเดียวก็แพ้แล้ว ส่วนใหญ่ใจจะฝ่อ เพราะรู้ว่าสู้ไม่ได้แน่ๆ เตรียมพับกระดานเก็บ ค่อยว่ากันใหม่ในเกมส์หน้า
.
หากแต่ .. อีก 5% นั้น กลับคิดตรงกันข้าม .. พวกนี้คือพวก ‘วิ่งสู้ฟัด’ ใจไม่ถอย ตราบใดที่เกมส์ยังไม่จบ ไม่ว่าแต้มจะห่างกันมากแค่ไหน ก็กัดฟันสู้มันต่อไป .. เข้าตำรา “สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร”
……………………………………………………………….
แมทช์นั้น เขาชนะ จากเดิมที่เขาตามหลังคู่ต่อสู้อยู่ 10 แต้ม และอีกแต้มเดียวเขาจะแพ้ แต่เขาไม่ถอดใจ เขายังเคลื่อนไหวทุกท่วงท่าอย่างมีสมาธิ พร้อมๆกับที่สมองคิดวิธีรุกและรับอยู่ตลอดเวลา แล้วเขาก็ไล่ตามมาทีละแต้ม ทีละแต้ม จนแต้มตีเสมอกันกับคู่ต่อสู้
.
และเมื่อกรรมการขาน ‘ดิวส์’ คำนี้ให้ความรู้สึกเหมือนคนใกล้จะตาย ได้มีโอกาสต่อลมหายใจใหม่ .. ให้เขาได้สู้ต่อ
.
ย่างเข้าเดือนที่ 4 หมอแปลกใจมากที่เนื้อร้ายนั้นค่อยๆหายไป เซลล์มะเร็งลดตัวลงอย่างน่าประหลาด คุณยายต่อสู้กับความตายมาจนถึงจุด ‘ดิวส์’ ครั้งนี้หมอบอกว่า คุณยายมีโอกาสรักษาหายแล้ว .. คุณยายได้สู้ต่อ
.
ชายไร้แขน ใช้คอหนีบพู่กัน ตวัดพู่กันไปมาอย่างพริ้วไหว คืนสุดท้ายแล้ว ถ้าหากเขาขายภาพนี้ได้ เขาจะมีเงินครบที่จะไปจ่ายค่าเรียน เขายอมนอนน้อยลงมาอีกคืนละ 1 ชั่วโมง แต่มันก็คุ้ม กว่า 3 เดือนที่นอนวันละ 2-3 ชั่วโมง จนกระทั่งมาถึงจุด ‘ดิวส์’ คราวนี้ .. เขาได้มีโอกาสสู้ต่อ เขาจะตั้งใจเรียนให้จบแล้วเอาใบประกาศกลับไปให้พ่อกับแม่ของเขาดู
……………………………………………………………….
ชีวิตคนเราก็เหมือนเกมส์กีฬา ทุกคนล้วนเป็นนักสู้ แชมป์โลกในอดีตมากมายล้วนผ่านสถานการณ์แบบนี้มาแล้วทั้งนั้น ทั้งตอนแข่งขันจริง หรือแม้กระทั่งเวลาซ้อม
.
คู่ต่อสู้ของยายสมจิตรก็คือโรคมะเร็ง ยายต่อสู้จนชนะแล้วอยู่ต่อมาได้จนถึงอายุ 95 ปี
.
คู่ต่อสู้ของชายพิการคือการได้เรียนต่อ เขาเรียนจบ ปัจจุบันเป็นอาจารย์สอนวาดรูปของวิทยาลัยที่เขาเรียนมา
.
และบางครั้ง ชีวิตคนเราอาจถูกไล่บี้ แต้มของคู่ต่อสู้นำจนห่างกันไกลลิบ
.
เมื่อ ‘แมทช์พ้อยท์’ ของชีวิตมาถึง เป็นเรา..เราจะยังสู้อยู่ไหม
.
หากเราเป็นประเภทกัดไม่ปล่อย ยื้อแต้มจนตามไล่คู่ต่อสู้ขึ้นมา ..ทีละแต้ม ทีละแต้ม .. และสู้มันอย่างมีสติ ใช้ความนิ่งและไตร่ตรองในทุกขณะ มันอาจพลิกสถานการณ์จากแย่สุดขั้ว ตามมาจนถึง “แต้มดิวส์” ได้ไม่ยาก ถึงตอนนั้นใจของคู่ต่อสู้จะฝ่อไปเอง
.
พ่ายแพ้กับชัยชนะ..ล้วนพลิกกันได้ที่ความคิด
.
จิตที่ฝึกมาดีแล้ว ย่อมไม่ถอดใจง่ายๆ ยิ่งถูกไล่บี้ .. ใจยิ่งกล้าแกร่งขึ้นทวีคูณ
.
ตามสถิติลักษณะเช่นนี้มักปรากฏเพียง 5% ของคนทั่วไปเท่านั้น
.
และหากเปลี่ยนความคิดใหม่ซะตอนนี้ เราก็เป็นหนึ่งใน 5% นั้นได้เช่นกัน
……………………………………………………………….
(เรื่องที่เขียน..คือเรื่องจริงในบางมุมของโลกใบนี้ สำหรับใครบางคน)
.
ภาพหน้าปกโดย Anja จาก Pixabay
.
ภาพด้านล่างจาก Pixabay
.

.
อ่านบทความอื่นๆได้ใน Facebook Page : Hovering Inspirations 👇
https://www.facebook.com/profile.php?id=61558412223812&mibextid=ZbWKwL