“ทำไมไม่เอาเครื่องเจ๋งๆกว่านี้มาฝึกบิน ใช้ทำไม ฮ.ลำเล็กๆ”
.
อาจมีคนสงสัย และตั้งคำถามไว้ และอาจยังคาใจด้วยความไม่รู้จริง
.
ในโอกาสนี้จึงขออธิบายเชิงอุปมาให้พอสังเขปดังนี้
.
ไม่มีโรงเรียนการบินไหนในโลกใช้โบอิ้ง 737 ฝึกศิษย์การบินเวอร์จิ้นเพื่อทำการบินปล่อยเดี่ยว .. ไม่มีหรอก
.
ไม่มีโรงเรียนการบินไหนในโลกใช้ Black Hawk ฝึกศิษย์การบินเฮลิคอปเตอร์ในการบินครั้งแรกของพวกเขา
.
ฮ.ฝึกบินกินน้ำมันเฉลี่ย 60 ลิตรต่อชั่วโมง ในขณะที่ ฮ.ไซส์กลางถึงใหญ่เริ่มกินจุขึ้น มีตั้งแต่ 200 ลิตรต่อชั่วโมงไปยัน 600 – 1,200 ลิตรต่อชั่วโมง ยังแบ่งออกเป็นแบบมีเครื่องยนต์เดียว และสองเครื่องยนต์อีก แน่นอนว่ากินน้ำมันไม่เท่ากัน
.
การฝึกนักบินใหม่เพื่อให้ได้ Licence นักบินพาณิชย์ตรี สำหรับ ฮ. ต้องใช้ชั่วโมงฝึกบินขั้นต่ำ 120 – 150 ชม. ขึ้นอยู่กับกฎกติกาและเงื่อนไขของแต่ละประเทศ
แล้วลองคูณราคาน้ำมันที่ต้องจ่ายดู กว่าจะปั้นคนบนฟ้าได้ 1 คนต้องใช้น้ำมันเท่าไร
.
เครื่องจิ๋วๆนั่นแหละ เครื่องที่น้ำหนักไม่เกิน 5,700 KG อากาศยานที่นักบินทั่วโลกต้องเคยผ่าน
.
มันอยู่ในความทรงจำส่วนแรกสุดของการเริ่มต้นในวิชาชีพ “นักบิน”
.
หากไม่นับในส่วนของนักบินทหาร .. ในบางที่อาจเลือกใช้อากาศยานที่ใหญ่กว่านั้นในการสอน แต่ในบริบทของโลกทั่วไปในเชิงพาณิชย์
เครื่องครู คือเครื่องไซซ์เล็ก สอนให้โบยบินได้ตั้งแต่ขั้นเบสิกถึงขั้น Advance
.
โลกหมุนไป พัฒนาถึงวันที่บางประเทศมีมาตรฐานสูงลิบ และมีกติกายิบย่อยมากมายคลอดออกมาเช่น การจะฝึกหลักสูตรครูการบินได้ เครื่องบินนั้นต้องทำ Spin ได้ , การจะฝึกขั้นนั้นได้ ขั้นนี้ได้ ต้องมีสิ่งนี้ สิ่งนั้น สิ่งโน้น เพิ่มขึ้นมา .. และอื่นๆอีกสารพัด
.
ดูทีต่อไปในอนาคต เครื่องบินไซส์เล็กอาจต้องอัพเกรดหลายฟังก์ชั่นใหม่เพื่อให้ตอบรับกับมาตรฐานที่เขาว่ากันว่าพัฒนามาเพื่อ Safety ไม่ใช่ Money
.
เคยมีครั้งหนึ่งมีคนถามว่าทำไม่ไม่เลือกใช้ ฮ.ที่มันเจ๋งกว่านี้ในการฝึกบิน คำถามกลับคือ ต้องเจ๋งขนาดไหนล่ะ
.
ในฐานะนักบิน การที่จะได้บินเครื่องเจ๋งๆ ไฮเทคโนโลยี มี Auto Pilot มันย่อมดีอยู่แล้ว .. แต่ในฐานะครูการบิน ผมกล้าพูดได้เลยว่า .. คงไม่มีใครหัดขับรถครั้งแรกด้วยบีเอ็ม, แลมโบ, บูกัตติ และ ฯลฯ
(หรืออาจจะมีก็ได้มั้ง
)

.
ทุก Skill ต้องเริ่มฝึกจากเบสิก .. การบินก็เช่นกัน
.
พันธกิจของโรงเรียนฝึกบิน ก็เพื่อป้อนผลผลิตออกสู่น่านฟ้า จากนั้นนกใหม่ที่เพิ่งคลอดออกจากรั้วโรงเรียนการบินก็ต้องไปฝึกปรือกับเครื่องแต่ละแบบตามแต่ละเส้นทางของใครของมัน
.
จะฟ้าทวีปไหน ก็ฟ้าเดียวกัน จุดเริ่มต้นก็ไม่ต่างกัน วันนี้ได้บินข้ามทวีปกับเครื่องใหญ่ จะอีกกี่มหาสมุทรที่ข้ามฟาก กลับมาบ้านก็ยังมีรูปบินปล่อยเดี่ยวกับเครื่องเล็กขนาดไม่เกิน 5,700 KG ให้ระลึกถึงกันทุกคน
.
เครื่องครู “ยังไงก็เป็นเครื่องครู”
.
คำถามที่ว่าทำไมไม่เอาเครื่องเจ๋งๆมาฝึกบินคงจะตอบได้ไม่ยาก เมื่อไรโรงเรียนการบินทั่วโลกเอาโบอิ้ง 737 หรือ Black Hawk มาฝึกศิษย์การบิน ตอนนั้นโลกคงจะล้นไปด้วยน้ำมัน ค่าตัวในการผลิตนักบินสักหนึ่งคนคงจะไม่ใช่แค่หลักล้าน .. ทะเลทั้งโลกคงถูกถมด้วยทองคำได้
.
กลับมาที่เบสิกก่อน เครื่องครูนี่แหละที่ปั้นคนบนฟ้าให้กับวงการ จะอีกกี่ร้อยกี่พันรุ่น เครื่องครูก็ยังคงเป็นเครื่องจิ๋วๆแบบนี้แหละ
.
“ไม่มีโลกไหนใช้เครื่องใหญ่กินจุมาฝึกบินให้ศิษย์การบินขั้นต้นหรอก .. ไม่มี”
….
สาระเพิ่มเติม
.
หน่วยกำกับดูแลด้านการบินแต่ละองค์กรได้แบ่งประเภทของอากาศยานแตกต่างกันไป แต่อันที่จริงสามารถแยกเครื่องไซส์ใหญ่กับเล็กได้โดยแบ่งตามน้ำหนักเครื่องได้ดังนี้
.
1. เครื่องบิน
ขนาดใหญ่ จะมีน้ำหนักวิ่งขึ้นสูงสุด*มากกว่า 5,700 kg.ขึ้นไป ถ้าเท่ากับหรือต่ำกว่า 5,700 kg.ลงไปจะถือเป็นเครื่องขนาดเล็ก
.
2. เฮลิคอปเตอร์
ขนาดใหญ่ จะมีน้ำหนักวิ่งขึ้นสูงสุดมากกว่า 3,175 kg.ขึ้นไป ถ้าเท่ากับหรือต่ำกว่า 3,175 kg.ลงไปจะถือเป็นเครื่องขนาดเล็ก
(น้ำหนักวิ่งขึ้นสูงสุดในที่นี้หมายถึงน้ำหนักของอากาศยานพร้อมอุปกรณ์ที่มีบวกน้ำหนักผู้โดยสารและสิ่งของสัมภาระที่มี และรวมกับน้ำมันเชื้อเพลิงที่บรรทุกด้วย)
.

.
อ่านบทความอื่นๆได้ใน Facebook Page : Hovering Inspirations 👇
https://www.facebook.com/profile.php?id=61558412223812&mibextid=ZbWKwL