Skip to content

ภาพลวงตายามค่ำคืนของการบิน

เทศกาลบินกลางคืนของศิษย์กลับมาอีกครั้ง .. หนึ่งในบทเรียนสำคัญที่ทุกปีกต้องผ่าน
.
เราทำตามขั้นตอนของหลักสูตรที่ได้ออกแบบไว้ มีการทำ Long Brief กันก่อนทุกครั้ง การซักซ้อมความเข้าใจในการปฏิบัติ ก่อนที่จะพาแมลงปอจิ๋วขึ้นกางปีกยามสงัด แผดเสียงเล็กๆบนน่านฟ้าของเมืองหัวหิน กับวิวทิวทัศน์ยามนี้ ดูแล้วช่างงดงามยิ่งนัก
.
ทว่าความงามยามค่ำคืนก็มีอันตรายแฝงอยู่หลายอย่าง อันตรายจากความเป็นมนุษย์ของเรานั่นเอง ด้วยเพราะมนุษย์มีขีดจำกัด โดยเฉพาะในความมืด การมองเห็น การรับรู้ การแปรภาพที่มองเห็นของสมองที่ประมวลผลซึ่งอาจคลาดเคลื่อนได้โดยไม่รู้ตัว
.
หนึ่งในหัวข้อของการบรีพที่ขาดไม่ได้เลยก็คือเรื่องของ ‘Visual Illusions’ หรือ ‘ภาพลวงตา’
.
ต่อไปนี้คือ Visual Illusions ที่อาจเจอได้เมื่อทำการบินยามค่ำคืน
.
1. Relative Motion Illusion – ภาพลวงตาของความสัมพันธ์ของการเคลื่อนที่
คล้ายๆเวลาจอดรถรอไฟแดงแล้วเหม่อไปดูรถข้างๆ พอรถคันที่เรามองอยู่เคลื่อนที่ เรากลับสำคัญผิดคิดว่าเราเคลื่อนตัวถอยหลัง ทั้งๆที่เราอยู่เฉยๆ .. เวลาบินก็อาจเกิดสภาวะนี้ได้เช่นกัน
.
2. False Horizon – ขอบฟ้าหลอก
เวลาบินแล้วมองออกไปดูด้านนอก เห็นแนวไฟของเสาไฟบนพื้นเรียงกันยาวหรือเห็นดาวเรียงกันเป็นแนว แล้วคิดว่านั่นคือเส้นขอบฟ้า จากนั้นก็เอียงปีกให้ขนานกับเส้นขอบฟ้าหลอกนั้น ทำให้หลงสภาพ หลงท่าทางได้
.
3. Autokinesis – เวลาบินแล้วไปจ้องมองแสงที่เป็นจุดหรือจ้องมองดาวนานเกินไป และคิดว่าจุดนั้นกำลังเคลื่อนที่ ซึ่งความจริงมันอยู่นิ่ง ไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรเลย
.
4. Black Hole Effect – ยามค่ำคืนที่มืดมากๆ สภาพแวดล้อมสนามบินที่จะบินลงนั้นมืดสนิท นักบินอาจรู้สึกว่าสนามบินนั้นอยู่ไกลหรือสูงกว่าความเป็นจริง ทำให้เผลอบังคับเครื่องร่อนลงสนามด้วยมุมบาง ร่อนลงมาใกล้พื้นมากกว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งอันตรายมาก
.
5. Flicker Vertigo – อาการวิงเวียนศีรษะ เหตุเกิดจากเอฟเฟกต์ของไฟที่กะพริบ (ไฟของอากาศยานที่ชื่อว่า Strobe light หรือ Anti-collision light ซึ่งจะกะพริบอยู่ตลอดเวลา มีไว้ป้องกันการชนกัน) เมื่อเห็นแสงสะท้อนของการกะพริบนั้นอาจทำให้รู้สึกสับสนหรือไม่สบายตาไปชั่วขณะ
.
6. Reversible Perspective Illusion – ภาพลวงตามุมมองย้อนกลับ เกิดขึ้นเมื่อนักบินเห็นเครื่องบินลำอื่นแล้วนักบินตีความการเคลื่อนไหวของเครื่องบินลำนั้นผิด เช่น เข้าใจว่าเครื่องที่เห็นกำลังบินออกไป ทั้งๆที่ความจริงเครื่องนั้นกำลังบินเข้ามาหาเรา
.
ทั้งหมดนี้เป็นแค่บางส่วนของภาพลวงตาที่มักพบเจอบ่อย เมื่อรู้ทฤษฎี ก็เท่ากับว่าเราดักได้ทันแล้วส่วนหนึ่ง ที่เหลือก็คือการฝึก
.
แล้วทำอย่างไรเมื่อเข้าสู่สภาวะหลงหรือสำคัญผิดไปกับสิ่งที่เห็น ดีที่สุดเลยก็คืออย่าให้เราเข้าไปสู่สภาพนั้นตั้งแต่แรก แต่หากเกิดขึ้นและรู้ตัวแล้วต้องรีบเชื่อเครื่องวัดประกอบการบินก่อน ต้องมองเครื่องวัด แปรผล และแก้ไขในทันที ด้วยเหตุนี้การฝึกบินด้วยเครื่องวัดประกอบการบินจึงจัดลำดับไว้ให้ฝึกก่อนการบินกลางคืน
.
จริงเสมอกับคำครูที่ว่า ‘จงเชื่อเครื่องวัด .. อย่าเชื่อความรู้สึก’
.
การเตรียมตัวก่อนการบินกลางคืนจึงสำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นการปรับสายตาก่อนการบิน โดยเฉพาะการดูแลร่างกายตนเอง แล้วก่อนบินควรเตรียมอะไรบ้าง ต่อไปนี้คือการดูแลดวงตาและเทคนิคการใช้สายตาที่เป็นประโยชน์ต่อการบินกลางคืน
.
1. ปรับสายตาก่อนบินกลางคืน โดยอยู่ในห้องมืดหรือหลีกเลี่ยงที่ที่มีแสงสว่าง ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ดวงตาจะค่อยๆเริ่มปรับสภาพสำหรับการมองเห็นในที่มืด
2. หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และบุหรี่ – สิ่งเหล่านี้ทำให้ออกซิเจนในดวงตาลดลง การมองเห็นจะยากขึ้น
3. ดื่มน้ำ / วิตามินเอ – อย่าให้ร่างกายขาดน้ำ โดยเฉพาะวิตามินเอนั้นจำเป็นต่อสุขภาพของดวงตา อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ เช่น แครอท ผักโขม และตับ
4. การมองกรอบนอกของวัตถุ และไม่จ้องไปที่ใดที่หนึ่งนานๆ – เป็นเทคนิคการมองในเวลากลางคืนที่ช่วยได้ดี เพิ่มความสามารถในการตรวจจับวัตถุในเวลากลางคืน
5. กะพริบตา – ช่วยลดความล้าในการใช้สายตาในเวลากลางคืนได้ เนื่องจากเวลาจ้องมองสิ่งต่างๆในที่มืดนานๆอาจทำให้ดวงตาแห้ง การกะพริบตาจึงช่วยได้
6. นอนหลับพักผ่อนก่อนการบินกลางคืน – เรื่องนี้สำคัญที่สุด มันคือเรื่อง ‘Manage Fatigue and Stress’ โดยหากนอนน้อย ความเหนื่อยล้าจะยิ่งส่งผลให้เกิดสภาวะภาพลวงตาได้ง่ายขึ้น
.
ทั้งหมดนี้คือบางส่วนที่เราต้องพูดคุยกันก่อนบิน ยังไม่รวมขั้นตอนปฏิบัติอื่นๆที่ต้องมาทบทวนกันอีกหลายอย่าง
.
เมื่อโบยบินไปบนฟ้าที่มืดสนิท จะเหลือเพียงแสงจันทร์กับแสงดาวเท่านั้น องค์ความรู้ที่เรียนกันมา เหล่าทฤษฎีที่ตกผลึกและผ่านประสบการณ์ของนักบินในอดีตมานั้น ช่วยดักจับภาวะอันตรายที่ซ่อนเร้นหลายอย่างเอาไว้ได้
.
แต่สุดท้าย ก็ไม่มีอะไรที่อันตรายไปกว่า .. ตัวของเราเอง
.
เพราะภาพลวงตาทั้งหลายเหล่านั้น ล้วนแล้วแต่เกิดจากตัวเราเองทั้งสิ้น
และเชื่อเถอะว่า ..
.
“Your eyes can deceive you, trust your instrument, they never lie”
.
.

อ่านบทความอื่นๆได้ใน Facebook Page : Hovering Inspirations 👇

https://www.facebook.com/profile.php?id=61558412223812&mibextid=ZbWKwL

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *