Skip to content

บ้านที่นักบินใช้ทำมาหากินบนฟ้า

  • by
ลีโอนาร์โด ดาวินชี เคยกล่าวไว้ว่า
.
“หากคุณได้ลิ้มรสการบินแล้ว คุณจะเดินบนโลกนี้ด้วยสายตาที่จับจ้องไปบนท้องฟ้า .. ว่าคุณยังอยู่บนนั้น และปรารถนาจะกลับไปที่นั่นเสมอ”
.
ย้อนไปก่อนโรคระบาดที่หักปีกนกเกลื่อนฟ้าทั้งโลก มนุษย์ใช้บริการเที่ยวบินพาณิชย์มากถึง 38.9 ล้านเที่ยวต่อปี ในปี 2019 สายการบินให้บริการผู้โดยสารกว่า 4.5 พันล้านคนทั่วโลก
.
เมื่อเส้นทางบนฟ้าเชื่อมโลกให้อยู่ใกล้กันมากขึ้น เศรษฐกิจหมุนไวขึ้น เส้นทางสมมติในอากาศเชื่อมทุกทวีปเข้าหากันกว่าพันเส้นทาง
.
การเดินทางคือการเข้าถึงโอกาสต่างๆ การพบปะ การทำมาหากิน มนุษย์ไม่เคยหยุดเดินทาง และสำหรับการเดินทางบนฟ้านั้นเราจำเป็นต้องใช้ ‘นักบิน’
.
วิชาชีพนี้คือ ‘นก’ ชนิดหนึ่ง เผ่าพันธุ์ที่ใช้ทักษะที่ถูกฝึกฝนในแบบฉบับเฉพาะทาง และการที่จะได้มาซึ่ง ‘ทักษะ’ และ ‘ความเชี่ยวชาญ’ นี้จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมี ‘วินัย’ เพราะมันคือหัวใจของการเดินทางบนเส้นทางนี้
.
ในการบินมีบ้านหลังหนึ่งที่ชื่อว่า “Airmanship” บ้านหลังนี้มีฐานรากที่ชื่อว่า ‘วินัย’ ตามต่อมาด้วยพื้นชั้นที่สองที่ชื่อว่า ‘ทักษะ’ และพื้นชั้นต่อมาที่ชื่อว่า ‘ความเชี่ยวชาญ’ เรียกได้ว่ามีพื้นหนาถึง 3 ชั้น
.
เสาของบ้านมีทั้งหมด 5 เสาได้แก่ ‘ตัวตน’ ‘อากาศยาน’ ‘ทีม’ ‘สภาพแวดล้อม’ และ ‘ความเสี่ยง’ ความหมายคือการที่จะเป็นนักบินที่ดีนั้น จะต้องรู้จักตนเอง, ประเมินตัวเองเป็น, รอบรู้ในอากาศยานที่จะทำการบิน, รู้จักทีม ทำงานเป็นทีม, รู้สภาพแวดล้อม และรู้ความเสี่ยง
รวมๆแล้วเรียกว่า ‘เสาแห่งความรู้’
.
หากเสายิ่งสูง บ้านยิ่งใหญ่ การตระหนักรู้ของสถานการณ์โดยรอบยิ่งแจ่มชัด นั่นคือคานหลังคาของบ้านหลังนี้ (Situational Awareness)
.
องค์ประกอบทั้งหมดเชื่อมโยงไปสู่หลังคาบ้านส่วนบนสุดที่ชื่อว่า ‘การตัดสินใจ (Judgement & Decision Making)’ การตัดสินใจบนฟ้านี้ที่สร้างการเดินทางให้กับมนุษย์เรากว่า 4 พันล้านคนต่อปี เป้าหมายสำคัญก็เพื่อ ‘ความปลอดภัยในทุกการเดินทาง’
.
การจะมีบ้านที่ชื่อว่า ‘Airmanship’ ที่ดีนั้น องค์ประกอบทั้งหมดต้องแข็งแรง .. เราใช้บ้านหลังนี้ทำมาหากินบนท้องฟ้า
.
พวกเราถูกสอนมาเช่นนั้น และเมื่อถึงวันที่บ้านต้องถูกปิดประตูต้อนรับแขก แต่พวกเราไม่อาจหยุดพัฒนาเสาทั้ง 5 ต้นนั้นได้ หากคิดจะเปิดบ้านหลังนี้อีกครั้งหนึ่ง
.
มนุษย์ลดการเดินทางลงหลังปี 2019 จาก 38.9 ล้านเที่ยวบิน เหลือเพียง 10 กว่าล้านเที่ยวบินต่อปี ทีมของพวกเรา (หนึ่งในเสาทั้ง 5 ต้น) ก็ได้รับผลกระทบไม่แพ้กัน ..
.
ช่างซ่อมบำรุงอากาศยาน, Flight Dispatcher, พนักงานต้อนรับ, Aircrew, เจ้าหน้าที่สนามบิน, ATC และเพื่อนร่วมงานอีกมากมายที่ทำหน้าที่เป็น ‘ผู้ปิดทองหลังพระ’ .. ปีกที่ไม่มีใครเห็น แต่คือส่วนหนึ่งของ ‘ทีม’ ที่นำพาให้พวกเราบินได้
.
ขณะที่ ‘นักบิน’ และ ‘ทีม’ ต้องรักษาองค์ประกอบของบ้านหลังนั้นไว้..รักษาไว้เพื่อรอวันเวลาที่ฟ้าเปิด .. รอวันเปิดบ้าน
.
ผมเคยเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสมมติบนฟ้ากลางอ่าวไทย โบยบินพาผู้โดยสารไปแท่นขุดเจาะก๊าซธรรมชาติ เชื่อมบกกับแท่นเล็กๆกลางทะเล ครั้งโรคระบาดเด็ดปีกของพวกเราออก กระทั่งวันที่ต้องหยุดบิน และรอวันเวลาฟ้าเปิดอย่างทรมาน
.
ขณะเดินบนพื้น สายตาก็ไม่วายเงยหน้ามองขึ้นไปบนฟ้า คิดถึงรสชาติของการบินนั้น
.
ปีนี้ 2024 คาดการณ์ตัวเลขเที่ยวบินต่อปีจะเริ่มกลับมา (คาดว่าพุ่งสูงถึง 40 ล้านเที่ยวบิน) ฟ้าเปิดแล้ว พวกเราก็พร้อมเปิดบ้านของเราเช่นกัน
.
นักบินหลายคนเริ่มได้กลับมาสตาร์ตเครื่องยนต์ หลายคนถูกเรียกตัวกลับ และอีกหลายเมล็ดพันธุ์บนพื้นที่อยากประกอบอาชีพนี้ รอวันที่จะได้มาศึกษาและเรียนรู้บ้านหลังที่ชื่อว่า ‘Airmanship’
.
เชื่อว่านับจากนี้ ท้องฟ้าจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง
.
ครั้นผมได้ขยับปีก แล้วเหินฟ้า ความรู้สึกอิ่มมันก็ผุดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก พลางนึกถึงคำของ ‘ดาวินชี’ ที่ว่า
.
“Once you have tased flight, you will forever walk the earth with your eyes turns skyward, for there you have been, and there you will always long to return”
.
<หากคุณได้ลิ้มรสการบินแล้ว คุณจะเดินบนโลกนี้ด้วยสายตาที่จับจ้องไปบนท้องฟ้า .. ว่าคุณยังอยู่บนนั้น และปรารถนาจะกลับไปที่นั่นเสมอ>
.
….
สาระเล็กๆน้อยๆ
.
Airmanship Model ถูกออกแบบโดย Tony Kern เมื่อปี 1996 ให้คำนิยาม Airmanship ว่า “Airmanship is a consistent use of good judgement and well-developed skill to accomplish flight objectives” ประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลักได้แก่
.
1.ฐาน ประกอบด้วย Discipline, Skill, Proficiency
2.เสา 5 ต้น ได้แก่ Self, Aircraft, Team, Environment, Risk
3.ส่วนบนและหลังคา ได้แก่ Situational Awareness, Judgement & Decision Making