รู้เขา รู้เรา ย่อมดีที่สุด โดยเฉพาะ ‘รู้เรา’ นี้สำคัญมาก
.
การรู้จักตัวเองก่อนขึ้นบิน เพื่อไม่ให้ตกหลุมพลางของตัวเองกลางท้องฟ้า
.
เคยไหม เย็นนี้ตารางบินออกมา เห็นชื่อกัปตันหรือผู้ช่วยนักบิน (FO : First Officer) ที่จะต้องไปบินด้วยแล้วรู้สึกใจหวิวๆชอบกล
.
หรือพอเห็นตารางบิน เห็นคู่บินวันรุ่งขึ้นแล้วใจโล่ง นอนหลับฝันดี
.
ผลสำรวจจากนักบิน 249 คนทั่วโลกพบว่า 74%ของกัปตัน และ 93% ของ FO เคยเจอเพื่อนร่วมงานที่ ‘ไม่อยากบินด้วยอีก’ และกว่า 30% ให้เหตุผลว่า ‘เพราะบุคลิกภาพไม่เข้ากัน’
.
ในชีวิตจริง
.
เราอาจต้องเผชิญกับหัวหน้าทีมที่ชอบสั่งลุยแบบไม่ยั้ง ไม่ฟังใคร
.
หรือ FO ที่นิ่งเงียบจนเราแอบสงสัยว่า เขาโอเคไหมเนี่ย ?
.
บางคนเตรียมตัวแน่นทุกไฟล์ท แต่หน้าดำคร่ำเครียดราวกับจะไปสอบกัปตันโลก
.
บางคนบรีฟอย่างร่าเริง มีมุกตลกตลอดทาง แต่เผลอลืมดึง Pin ที่ล้อออกก่อนขึ้นเครื่อง
.
ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
.
แต่มันมีคำอธิบายทางจิตวิทยา
.
และนี่คือ ทฤษฎีที่ว่าด้วยโมเดลของฮานซ์ ไอเซ็งค์ ( Eysenck’s Personality Model)
.
โมเดล 2 แกน ที่บอกได้ว่า เราเป็นนักบินแบบไหน?
.
Hans Eysenck นักจิตวิทยาชาวอังกฤษเชื้อสายเยอรมัน เชื่อว่าบุคลิกภาพมนุษย์วัดได้จาก 2 แกนหลักได้แก่
.
E = Extraversion แบ่งบุคลิกได้ 2 แบบคือ แบบเปิดเผย และ เก็บตัว
N = Neuroticism แบ่งบุคลิกได้ 2 แบบคือ มีอารมณ์มั่นคง และ อ่อนไหว
.
เมื่อนำสองแกนนี้มาตัดกัน เราจะได้ 4 Quadrants = 4 แบบนักบิน
.
ต่อไปนี้คือคำอธิบาย
.
1. Melancholic Pilot
.
นักบินแบบเมลันโคลีก (นักคิดที่เคร่งเครียด รอบคอบ แต่อ่อนไหว)
“รอบคอบ แต่ขี้กังวล”
(เก็บตัว + อ่อนไหว / Introverted + Neurotic)
นักบินแบบนี้คือพวก ‘คิดลึก คิดซ้ำ คิดเผื่อ’
.
เตรียมตัวล่วงหน้าแบบละเอียดยิบ แต่ใจอาจปั่นป่วนเมื่อมีอะไรผิดแผน
.
– มักจมอยู่กับรายละเอียดเล็กๆ
– ไม่ชอบเปลี่ยนเส้นทางกระทันหัน
– เครียดก่อน Checkride
– ในสถานการณ์ฉุกเฉิน อาจมีอาการ Freeze หรือ Overthink จนตัดสินใจช้า
.
จุดแข็งคือ มีวินัย ใส่ใจรายละเอียด
.
ข้อควรระวัง – ฝึก ‘ปล่อยวาง’ และ ‘หัดวางใจในแผนสำรองบ้าง’ ต้องเรียนรู้ว่า ‘ความพลาดเล็กน้อย’ มันไม่ใช่จุดจบของภารกิจ
ในบริบททั่วไปเหมาะกับงานที่ต้องวางแผน ซึ่งถ้าต้องทำงานร่วมกับใคร ควรมีคู่ที่ช่วยบาลานซ์อารมณ์
.
2. Choleric Pilot
.
นักบินแบบโคลเลอริก (นักสั่งการ ใจร้อน พลังสูง)
“ใจร้อน กล้าเผชิญหน้า”
(เปิดเผย + อ่อนไหว / Extroverted + Neurotic)
นี่คือนักบินสายบู๊ สั่งเร็ว ทำเร็ว ใจเร็ว
.
ดูเหมือนจะเกิดมาเพื่อสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่อาจระเบิดใส่ลูกเรือได้ง่าย
.
– พูดตรง ตัดสินใจไว รวดเร็วทันใจ
– ไม่ชอบความช้า ความลังเล
– บางครั้งไม่รับฟัง FO หรือข้อมูลจากลูกเรือ
– มีความเป็นผู้นำสูง แต่บางครั้งขาดความยับยั้งชั่งใจ
– รับแรงกดดันได้ แต่ไม่ชอบความช้า
– ชอบ ‘Action’ มากกว่า ‘Analysis’
.
จุดแข็งคือ มีภาวะผู้นำสูง ไม่กลัวความเสี่ยง
.
ข้อควรระวัง – หมั่นฝึก ‘ฟัง’ ก่อน ‘สั่ง’ และควบคุมโทนเสียงใน Cockpit เปิดใจรับ feedback ให้มากขึ้น
โดยทั่วไปเหมาะกับภารกิจเร่งด่วน แต่ต้องมีทีมที่กล้าทักท้วงคอยช่วยกระตุกสติ
.
3. Phlegmatic Pilot
.
นักบินแบบเฟลกมาติก (เย็น ช้า มั่นคง ใจเย็น)
“เย็น นิ่ง มั่นคง น่าไว้ใจ”
(เก็บตัว + มั่นคง / Introverted + Stable)
.
คนนี้คือ FO ในฝันของใครหลายคน
.
พูดน้อย แต่พูดเมื่อจำเป็น และมีสติแม้ในสถานการณ์วุ่นวาย
.
– ทำงานเงียบๆ แต่คุณภาพคับแก้ว
– ไม่ตื่นตระหนกง่ายแม้ในภาวะฉุกเฉิน
– คุมอารมณ์ได้ดีจนบางคนเข้าใจว่าเฉยเมย
– สังเกตเก่ง สื่อสารแบบไม่โอ้อวด
.
จุดแข็งคือ เสถียรภาพสูง ปรับตัวเก่ง
.
ข้อควรระวัง – ฝึก Assertiveness (การแสดงความเห็นอย่างมั่นใจแต่ไม่ก้าวร้าว) ต้องฝึก ‘การสื่อสารเชิงรุก’ ในบางสถานการณ์
ในบริบททั่วไปเหมาะกับสถานการณ์ที่ต้องการความนิ่งและการประสานงานเบื้องหลัง
.
4. Sanguine Pilot
.
นักบินแบบแซงกวิน (สดใส ร่าเริง เข้ากับคนง่าย)
“คุยเก่ง บรรยากาศดี แต่บางทีก็ชะล่าใจ”
(เปิดเผย + มั่นคง / Extroverted + Stable)
.
คนนี้คือ ‘นักบินสายคุย+อารมณ์มั่นคง’ ที่ช่วยลดความเครียดให้ทั้งทีม มองโลกแง่ดี ชอบความสัมพันธ์ แต่บางครั้งก็ละเลย checklist
.
– สร้างพลังบวกในห้องบรีฟ
– ปรับตัวเก่งกับลูกเรือหลายบุคลิก
– ช่วย de-escalate ความตึงเครียด
– อาจหลุดรายละเอียดถ้าชิลล์เกินไป
.
จุดแข็งคือ บริหารความสัมพันธ์เก่ง สื่อสารดี
.
ข้อควรระวัง – บางครั้งอาจชะล่าใจในเรื่องเล็ก ๆ ต้องฝึก ‘โฟกัสกับ checklist’ และ ใส่ใจในจุดเล็กจุดน้อยให้มากขึ้น ต้องไม่ให้ความชิลล์กลายเป็นความประมาท
.
เหมาะกับทีมที่ต้องการพลังบวก แต่ต้องมีทีมที่คอยช่วยดึงสมาธิกลับเข้ามาหากเห็นว่าเริ่มเผลอไผล
…..
แล้วนักบินแบบไหน “ปลอดภัยที่สุด”?
.
งานวิจัยจาก UK CAA และ EASA ระบุตรงกันว่า
.
นักบินที่มีความมั่นคงทางอารมณ์ (Low Neuroticism) จะมีแนวโน้มปลอดภัยกว่านักบินที่เปราะบางหรือชอบมีอาการวิตกจริต
.
ส่วนจะเป็น Introvert หรือ Extrovert นั้น .. ไม่ใช่ประเด็น
.
เพราะสุดท้าย ความปลอดภัยไม่ใช่เรื่องของบุคลิกเพียงอย่างเดียว
.
แต่มันคือ “การรู้จักตัวเอง และรู้จักปรับตัว”
.
ส่วน Eysenck บอกว่า “นักบินแนว Stable Extrovert” มีแนวโน้มเหมาะกับงานบินที่สุด เพราะ ควบคุมอารมณ์ได้ และสื่อสารได้ดี
.
แต่ในชีวิตจริง
.
ไม่มีบุคลิกแบบไหน ‘ที่ดีที่สุด’
.
มีแต่เราที่ “รู้จักตัวเองดีที่สุด” เท่านั้น
….
ในโลกของการบิน “รู้เขา” = “รู้เรา”
.
การเข้าใจว่าเพื่อนร่วมบินเป็นนักบินแบบไหน
.
จะช่วยลดความขัดแย้ง เพิ่มการประสานงาน และเสริมความปลอดภัยได้
.
– บางคนชอบ Captain เงียบแต่เป๊ะ
– บางคนอยากได้ FO ที่ร่าเริงช่วยจุดพลัง
– บางคนถนัดคู่บินนิ่ง ๆ เพราะได้ space ในการคิด
– บางคนชอบคนที่คิดไว ตอบโต้ไว เพราะรู้สึกปลอดภัย
.
ไม่มีแบบไหนผิด ไม่มีแบบไหนถูก
.
แต่ถ้าเรารู้ว่าเรา ‘อยู่ Quadrant ไหน’ และคู่บิน ‘อยู่ตรงไหน’
.
เราจะวางจังหวะร่วมกันได้เร็ว และพาทีมไปถึงจุดหมายได้ปลอดภัยกว่าเดิม
.
สรุป
.
รู้จักตัวเอง รู้จักผู้อื่น = รู้ทางรอด
.
และในการบิน การเข้าใจ ‘บุคลิก’ ซึ่งกันและกัน อาจเป็นเรื่องเล็ก
.
แต่เป็นเรื่องเล็กที่เชื่อมถึงเรื่องใหญ่
.
เพราะมันเข้าไปแตะ ‘หัวใจของความปลอดภัย’ ทุกเวลา
.

.
อ่านบทความอื่นๆได้ใน Facebook Page : Hovering Inspirations 👇
https://www.facebook.com/profile.php?id=61558412223812&mibextid=ZbWKwL